โจ ไช่ ประธานบริษัทอาลีบาบา กรุ๊ป โฮลดิงส์ (Alibaba Group Holding Ltd.) ยักษ์ใหญ่ด้านอีคอมเมิร์ซของจีนได้ออกมาเตือนถึงสัญญาณฟองสบู่ในการลงทุนสร้างศูนย์ข้อมูลปัญญาประดิษฐ์ (AI) ระหว่างการปราศรัยในงานประชุมสุดยอดการลงทุนโลกของธนาคารเอชเอสบีซี (HSBC) ที่ฮ่องกงในวันนี้ (25 มี.ค.) โดยระบุว่า การเร่งสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้าน AI มีมากเกินกว่าความต้องการใช้งานจริงในตลาด
ประธานอาลีบาบาชี้ให้เห็นว่า บริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ กองทุนการลงทุน และผู้เล่นในตลาดหลายราย กำลังทยอยเปิดตัวโครงการก่อสร้างศูนย์ข้อมูล หรือที่เรียกว่า "ดาต้าเซ็นเตอร์" โดยที่ยังไม่มีการทำสัญญากับลูกค้าที่จะมาใช้บริการ
ไช่กล่าวต่อผู้เข้าร่วมประชุมว่า เขาได้เริ่มเห็นแล้วว่ากำลังจะเกิดภาวะฟองสบู่ พร้อมแสดงความกังวลว่า เขาเริ่มรู้สึกไม่ค่อยดีเมื่อเห็นคนแห่กันไปสร้างดาต้าเซ็นเตอร์ตามกระแส มีรายใหม่โผล่เข้ามา โดยมีกองทุนเปิดตัวกันเป็นว่าเล่น และต่างก็ระดมทุนกันหลายพันล้าน
ไช่ยังระบุว่า โครงการก่อสร้างศูนย์ข้อมูลกำลังเกิดขึ้นอย่างกระจัดกระจายทั้งในสหรัฐฯ และเอเชีย โดยหลายโครงการออกแบบมาโดยไม่ได้มีลูกค้าที่ชัดเจน
ในขณะที่บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่อย่างไมโครซอฟท์ (Microsoft) และซอฟต์แบงก์ กรุ๊ป (SoftBank Group) กำลังทุ่มเงินหลายพันล้านดอลลาร์ไปกับการซื้อชิปจากอินวิเดีย (Nvidia) และเอสเค ไฮนิกซ์ (SK Hynix) เพื่อรองรับการประมวลผล AI อาลีบาบาเองก็ได้ประกาศแผนลงทุนกว่า 3.8 แสนล้านหยวน (5.2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในเทคโนโลยี AI ภายในสามปีข้างหน้า ขณะที่ศูนย์ข้อมูลใหม่ ๆ กำลังผุดขึ้นอย่างรวดเร็วตั้งแต่อินเดียไปจนถึงมาเลเซีย ส่วนในสหรัฐฯ ก็มีการศึกษาโครงการขนาดมหึมาอย่างสตาร์เกต (Stargate) ที่มีมูลค่าสูงถึงครึ่งล้านล้านดอลลาร์
ไช่เน้นย้ำว่า การลงทุนในสหรัฐฯ มีความโดดเด่นเป็นพิเศษ โดยเฉพาะในปีนี้ บริษัทอะเมซอน (Amazon.com), อัลฟาเบท (Alphabet) และเมตา แพลตฟอร์มส์ (Meta Platforms) ได้ประกาศงบลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน AI สูงถึง 1 แสนล้าน, 7.5 หมื่นล้าน และ 6.5 หมื่นล้านดอลลาร์ ตามลำดับ
ไช่กล่าวว่า เขางงกับตัวเลขที่พูดกันในสหรัฐฯ เรื่องการลงทุนด้าน AI เป็นเงิน 5 แสนล้านดอลลาร์ เป็นหลักแสนล้าน ซึ่งเขามองว่ามากเกินความจำเป็น โดยหลายคนกำลังลงทุนล่วงหน้าเกินกว่าดีมานด์ที่มีอยู่ตอนนี้อย่างมาก แต่พวกเขาก็คาดการณ์กันว่า ความต้องการจะพุ่งขึ้นอีก