ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ เรียกร้องให้รัสเซียยุติการโจมตีในยูเครน และแสดงความเห็นว่า ปธน.โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ของยูเครน อาจพร้อมสละไครเมีย เป็นราคาที่ต้องจ่ายเพื่อแลกกับข้อตกลงสันติภาพกับรัสเซีย
ทรัมป์แสดงความผิดหวังที่รัสเซียยังเดินหน้าโจมตียูเครนอย่างต่อเนื่องและเผยว่า การพูดคุยตัวต่อตัวกับเซเลนสกีที่วาติกันเมื่อวันเสาร์ (26 เม.ย.) เป็นไปอย่างราบรื่น โดยระบุในวันอาทิตย์ (27 เม.ย.) ว่า "ผมมองว่าเขาใจเย็นขึ้น ผมคิดว่าเขาเข้าใจภาพรวมดี และผมคิดว่าเขาอยากทำข้อตกลง"
เมื่อถูกถามว่าเซเลนสกีอาจพร้อมสละไครเมีย ซึ่งเป็นคาบสมุทรในทะเลดำที่รัสเซียยึดครองไปเมื่อปี 2557 เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงสันติภาพในอนาคตกับรัสเซียหรือไม่ ทรัมป์ตอบว่า "โอ้ ผมคิดว่าอย่างนั้น ใช่ ดูสิ เรื่องไครเมียมันเกิดขึ้นเมื่อ 12 ปีที่แล้ว"
จากนั้น ทรัมป์ได้กล่าวโทษบารัค โอบามา และโจ ไบเดน ซึ่งเป็นปธน.สหรัฐฯ คนก่อนหน้าจากพรรคเดโมแครต ว่าเป็นผู้ปล่อยให้รัสเซียยึดไครเมียไป "โดยไม่มีการยิงแม้แต่นัดเดียว"
"ดังนั้น อย่ามาพูดเรื่องไครเมียกับผม ไปคุยกับโอบามากับไบเดนโน่น และจำไว้ว่า นี่คือสงครามของไบเดน ไม่ใช่สงครามของทรัมป์ ผมเข้ามาเพื่อพยายามแก้ปัญหา และปัญหาก็คือมีคนมากมายที่กำลังถูกฆ่า" ทรัมป์กล่าว
ข้อเสนอของสหรัฐฯ ในการยุติสงครามในยูเครนที่ดำเนินมานานกว่า 3 ปี มีการเสนอให้ทางการสหรัฐฯ ยอมรับการควบคุมไครเมียของรัสเซีย รวมถึงยอมรับการครอบครองดินแดนส่วนอื่น ๆ ของยูเครนโดยรัสเซียในทางพฤตินัย ในทางกลับกัน ข้อเสนอโต้แย้งของฝ่ายยุโรปและยูเครนขอให้เลื่อนการหารือในรายละเอียดเกี่ยวกับประเด็นดินแดนออกไป จนกว่าจะมีการบรรลุข้อตกลงหยุดยิงแล้ว
ขณะเดียวกัน มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวเมื่อวันอาทิตย์ผ่านรายการ "Meet the Press" ของสถานี NBC ว่า รัฐบาลทรัมป์อาจล้มเลิกความพยายามในการไกล่เกลี่ยข้อตกลง หากรัสเซียและยูเครนไม่มีความคืบหน้า
"มันต้องเกิดขึ้นเร็ว ๆ นี้ เราทุ่มเทเวลาและทรัพยากรให้กับความพยายามนี้ต่อไปไม่ได้ ถ้ามันจะไม่นำไปสู่ผลสำเร็จ" รูบิโอกล่าว