ทั้งสามฝ่ายได้บรรลุข้อตกลงในหลักการระหว่างการประชุมไตรภาคี ซึ่งมีประธาน NEC, รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย, ตัวแทนของพรรคประชาชนกัมพูชา (CPP) ซึ่งเป็นพรรครัฐบาล และตัวแทนจากพรรคกู้ชาติกัมพูชา (CNRP) ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านหลัก เข้าร่วม
"เราได้ตกลงที่จะจัดตั้งคณะกรรมการร่วม ซึ่งประกอบด้วย NEC, CPP และ CNRP เพื่อสอบสวนกรณีทุจริตเลือกตั้ง" เลขาธิการ NEC กล่าวกับผู้สื่อข่าวภายหลังการประชุม พร้อมกับเสริมว่า การจัดตั้งคณะกรรมการร่วมจะมีขึ้นโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และทางกัมพูชายินดีต้อนรับผู้สังเกตการณ์จากทั้งในประเทศและต่างประเทศให้มาติดตามขั้นตอนการสอบสวน
ผลการเลือกตั้งเบื้องต้นแสดงให้เห็นว่า พรรค CPP ของนายกรัฐมนตรีฮุน เซน ได้ที่นั่งในสภา 68 ที่นั่ง และพรรค CNRP ของนายสม รังสี ที่เพิ่งได้รับการอภัยโทษไม่นานมานี้ ได้ที่นั่งที่เหลืออีก 55 ที่นั่ง
การตกลงจัดตั้งคณะกรรมการร่วมมีขึ้นหลังจากที่นายสม รังสี ประกาศเมื่อวันจันทร์ว่า พรรคของเขาไม่ยอมรับผลการเลือกตั้งในวันอาทิตย์ โดยอ้างว่ามีการทุจริตเป็นวงกว้าง และเรียกร้องให้ NEC จัดตั้งคณะกรรมการร่วมเพื่อสอบสวนการทุจริต
นายสม รังสี อ้างว่ามีผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้ง 1.3 ล้านคนที่ไม่สามารถลงคะแนนได้ เนื่องจากไม่มีชื่ออยู่ในบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง นอกจากนี้ เขายังอ้างด้วยว่ามีชื่อที่ลงในบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งเพื่อโกงการเลือกตั้งถึงประมาณ 1 ล้านชื่อ และชื่อซ้ำซ้อนราว 200,000 ชื่อ
นายกฯ ฮุน เซน กล่าวเมื่อวันศุกร์ว่า รัฐบาลและพรรคของเขายินดีให้มีการจัดตั้งคณะกรรมการร่วม ซึ่งเปิดโอกาสให้พรรคการเมือง เอ็นจีโอทั้งในและต่างประเทศเข้าร่วม เพื่อตรวจสอบกรณีทุจริต
"นี่เป็นวิธีที่ดีในการแก้ไขปัญหาที่ค้างคาอยู่ และเพื่อแสดงความโปร่งใส และหาทางออกที่สามารถเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย" นายกฯกัมพูชากล่าว โดยนายฮุน เซน จะนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีต่อไปอีก 1 สมัย ระยะเวลา 5 ปี หลังจากที่อยู่ในตำแหน่งมาอย่างยาวนานถึง 28 ปี
ทั้งนี้ ถึงแม้เป็นฝ่ายคว้าชัยชนะเมื่อวันอาทิตย์ แต่ก็ถือเป็นชัยชนะที่ไม่สวยนักสำหรับพรรค CPP เนื่องจากทางพรรคเก็บคะแนนมาได้เพียง 68 ที่นั่ง ร่วงลงจาก 90 ที่นั่งที่สามารถกวาดได้ในการเลือกตั้งเมื่อปี 2551 ขณะที่พรรคฝ่ายค้าน CNRP ได้ที่นั่งเพิ่มขึ้นมากจาก 29 เป็น 55 ที่นั่ง