ทั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐประกาศปิดทำการด้านการทูต 19 แห่งในตะวันออกกลางและแอฟริกา เพื่อรับมือกับความเป็นไปได้ที่กลุ่มก่อการร้ายจะโจมตีผลประโยชน์ของชาติตะวันตก
นางเจน ซากี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐกล่าวว่า สถานทูตและสถานกงสุลของอเมริกา จะยังคงปิดทำการตั้งแต่วันจันทร์ไปจนถึงวันอังคาร
"เราได้ตัดสินใจขยายเวลาการปิดสถานทูตและสถานกงสุล" นางซากีกล่าว โดยระบุว่าการตัดสินใจดังกล่าวเป็นไปตามมาตรการเฝ้าระวัง และเนื่องในโอกาสเฉลิมฉลองวันอิดิ้ลฟิดรี่ ซึ่งเป็นวันสิ้นสุดเดือนรอมฎอนที่ชาวมุสลิมจะเลิกถือศีลอด
สถานทูตที่อเมริกาปิดทำการ 19 แห่งได้แก่ สถานทูตอเมริกาในอาบูดาบี อัมมาน กรุงไคโร ริยาดห์ ดาห์ราน เจดดาห์ โดฮา ดูไบ คูเวต มานามา มัสกัต ซานา ทริโปลี อันตานานาริโว บูจุมบูรา จิบูติ คาร์ทูม คิกาลี และพอร์ท หลุยส์
"นี่ไม่ใช่สัญญาณบ่งชี้ว่ามีการคุกคามครั้งใหม่ และเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมันของเราในการดำเนินมาตรการเฝ้าระวังและการดำเนินการที่เหมาะสม เพื่อปกป้องเจ้าหน้าที่ของเรา ซึ่งรวมถึงเจ้าหน้าที่ในท้องถิ่นและผู้ที่เดินทางมายังสถานที่ทำการของเรา" นางซากีกล่าว
นางซากีกล่าวว่า สหรัฐจะเปิดทำการสถานทูตในดากา อัลเจียส์ น็อคชอทท์ คาบูล เฮรัท มาซาร์ เอลชารีฟ แบกแดด บาสราห์ และเออร์บิล
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐได้เริ่มประกาศปิดสถานทูตในช่วงสุดสัปดาห์ และเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยทางกระทรวงได้ออกแถลงการณ์เตือนการเดินทางทั่วโลก อันเนื่องมาจากความเป็นไปได้ที่จะเกิดเหตุการณ์โจมตีจากผู้ก่อการร้าย
"ข้อมูลในปัจจุบันชี้ให้เห็นว่า กลุ่มอัล-กออิดะห์และองค์กรที่เกี่ยวข้อง ยังคงวางแผนโจมตีในภูมิภาคแห่งนี้และภูมิภาคอื่นๆ และยังชี้ให้เห็นว่ากลุ่มก่อการร้ายอาจจะพุ่งเป้าโจมตีในช่วงเวลานี้ไปจนถึงปลายเดือนส.ค." แถลงการณ์เตือนระบุ สำนักข่าวซินหัวรายงาน