เหตุโจมตีดังกล่าวที่เกิดขึ้นในช่วงกลางวัน ยิ่งทำให้สถานการณ์ความวุ่นวายในอียิปต์รุนแรงมากขึ้น และเป็นการตอกย้ำถึงความไม่แน่นอนด้านยุทธศาสตร์ของประเทศ
เมืองราฟาห์ตั้งอยู่บริเวณชายแดนระหว่างอียิปต์ และฉนวนกาซา เปรียบเสมือนประตูข้ามเขตแดนที่สำคัญ โดยหน่วยงานของอียิปต์ได้ปิดเส้นทางดังกล่าว เพื่อตอบโต้การโจมตีอันโหดร้าย หรือที่พวกเขาเรียกว่า “การก่อการร้าย"
เหตุนองเลือดเกิดขึ้นเพียง 1 วันหลังจากสมาชิกกลุ่มภราดรภาพมุสลิมเสียชีวิต 36 รายจากเหตุที่ทางเจ้าหน้าที่ระบุว่า พยายามจะหลบหนีระหว่างเดินทางไปยังเรือนจำซึ่งอยู่บริเวณชานเมืองไคโร
นับตั้งแต่กองกำลังรักษาความปลอดภัยของอียิปต์เริ่มปราบปรามการชุมนุมของผู้สนับสนุนอดีตประธานาธิบดีโมฮัมเหม็ด มอร์ซี และกลุ่มภราดรภาพมุสลิมในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ก็มีรายงานยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ความรุนแรงกว่า 1,000 ราย
เมื่อวานนี้ กลุ่มผู้โจมตีซึ่งพกเครื่องยิงจรวด (อาร์พีจี) ได้บังคับให้รถโดยสารขนาดเล็ก 2 คันจอด หลังจากนั้น จึงให้ผู้โดยสารลงมา และบังคับให้พวกเขานอนลงบนพื้นก่อนที่จะเปิดฉากกราดยิง
เฮลิคอปเตอร์ของกองทหารได้เคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บเพื่อเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล ขณะเดียวกันก็มีการกระจายหน่วยรักษาความปลอดภัยเสริมบริเวณถนนสายหลักๆเพื่อติดตามตัวผู้ต้องสงสัย
หลังจากอดีตประธานาธิบดีฮอสนี มูบารัค ถูกโค่นอำนาจในเดือนก.พ. 2554 เหตุโจมตีก็เกิดขึ้นอยู่เนืองๆในคาบสมุทรไซนาย และสถานการณ์ก็ยิ่งเลวร้ายลงหลังจากการปฏิวัติยึดอำนาจอดีตประธานาธิบดีมอร์ซี เมื่อวันที่ 3 ก.ค. ที่ผ่านมา
โมฮัมเหม็ด อิบราฮิม รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมได้ไว้อาลัยให้กับเหยื่อผู้เคราะห์ร้าย และมีคำสั่งให้เลื่อนขั้นผู้เสียชีวิตทั้งหมด เพื่อเป็นเกียรติให้กับการทุ่มเทและอุทิศตนเอง ตลอดจนจัดการบริการด้านสุขภาพ และสังคมให้กับครอบครัวของผู้เสียชีวิต
ในช่วงบ่ายของวันอาทิตย์ สถานีโทรทัศน์ของรัฐบาลได้แพร่ภาพของเฮลิคอปเตอร์หลายลำที่จอดอยู่ในสนามบินทหารอัลมาซาห์ พร้อมศพที่ห่อหุ้มด้วยธงชาติอียิปต์
อิบราฮิมยังได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นว่า ทุกฝ่ายจะต้องยุติความขัดแย้งไว้ก่อน เพื่อผลประโยชน์ส่วนรวมของประเทศชาติ
ด้านบัน กี-มูน เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ได้ประณามเหตุการณ์ดังกล่าวอย่างรุนแรง และฝากความหวังไว้ว่า “จะสามารถนำตัวผู้กระทำผิดมาตัดสินได้โดยเร็ว"
นอกจากนี้ อาเหม็ด อาเรฟ โฆษกประจำกลุ่มภราดรภาพมุสลิมได้ร่วมประณามเหตุสังหารตำรวจในแถลงการณ์บนเว็บไซต์ทางการของพรรคเพื่ออิสระ และความยุติธรรม
ขณะเดียวกัน เขาโต้แย้งว่า เหตุการณ์ในครั้งนี้ร้ายแรงเท่ากับเหตุปะทะในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เพราะผู้ต้องขังเกือบทั้งหมดเสียชีวิตลงจากภาวะขาดอากาศหายใจ หลังจากกองทหารยิงแก๊สน้ำตาเข้าใส่
ความคิดเห็นของเขาต่างจากที่สื่อของอียิปต์รายงานว่า การสังหารเกิดขึ้นหลังจากกองทหารปะทะกับกลุ่มผู้ลอบยิงบริเวณใกล้เรือนจำ ทำให้จำเป็นต้องใช้แก๊สน้ำตา ทั้งนี้ สื่อของรัฐบาลยังระบุด้วยว่า มือปืนกลุ่มดังกล่าวเป็นสมาชิกของกลุ่มภราดรภาพมุสลิม สำนักข่าวซินหัวรายงาน
State media also reported that the gunmen belonged to the Muslim Brotherhood.