รายงานระบุว่า หากองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ขัดขวางการใช้กำลังทางทหารกับซีเรีย แต่อังกฤษก็ยังคงได้รับอนุญาตตามประมวลกฎหมายสากล ให้ใช้มาตรการพิเศษ เพื่อลดขนาดความรุนแรงของหายนะที่เกิดขึ้นกับมนุษยชาติในประเทศซีเรีย
รายงานดังกล่าวมีขึ้นหลังจากรัฐบาลอังกฤษเปิดเผยญัตติที่ระบุว่า อังกฤษอาจจะไม่ใช้กำลังทหารต่อซีเรีย จนกว่าสหประชาชาติ (ยูเอ็น) จะเสร็จสิ้นการตรวจสอบข้อกล่าวหาประเด็นการใช้อาวุธเคมีในซีเรีย
นอกจากนี้มีรายงานว่า อังกฤษเตรียมเสนอมติต่อคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) ในวันนี้ เพื่อขอให้ใช้มาตรการที่จำเป็นในการปกป้องพลเรือนในซีเรีย โดยนายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอน ของอังกฤษ กล่าวผ่านทางทวิตเตอร์ว่าจะมีการผลักดันมติดังกล่าวในที่ประชุมสมาชิกถาวร 5 ประเทศของ UNSC
ขณะเดียวกันนายบัน คี มุน เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ ได้เรียกร้องให้ UNSC ลงมือดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่ง โดยระบุว่า "หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการรักษาความสงบและความมั่นคงระหว่างประเทศ ไม่ควรนิ่งดูดายโดยไม่ทำอะไร UNSC ต้องใช้อำนาจในการรักษาความสงบเรียบร้อย"
ทั้งนี้ อังกฤษเผชิญกับคำถามจากนานาประเทศเกี่ยวกับการใช้กำลังทางทหารเข้าแทรกแซงสถานการณ์ในซีเรีย นับตั้งแต่มีรายงานว่าชาวซีเรียเสียชีวิตกว่า 1,300 คนเมื่อวันที่ 21 ส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งมีการวิเคราะห์ในวงกว้างว่าประชาชนเหล่านี้เสียชีวิตเนื่องจากอาวุธเคมี ผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนในประเทศอังกฤษครั้งหลังสุดระบุว่า ว่า 50% ของชาวอังกฤษไม่เห็นด้วยกับการใช้กำลังทหารโจมตีซีเรีย ขณะที่ 40% ไม่เห็นด้วยที่อังกฤษจะเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับสถานการณ์ในซีเรีย และ 20% สนับสนุนให้ใช้กำลังทางทหารจัดการกับซีเรีย