เคทลิน เฮย์เดน โฆษกหญิงของสภาความมั่นคงแห่งชาติ แถลงว่า "การปรึกษาหารือกับอังกฤษจะดำเนินต่อไป แต่ประธานาธิบดีโอบามาจะตัดสินใจโดยพิจารณาจากผลประโยชน์สูงสุดของสหรัฐเป็นหลัก"
"ท่านประธานาธิบดีเชื่อว่าผลประโยชน์ของสหรัฐกำลังตกอยู่ในความเสี่ยง และประเทศใดก็ตามที่ละเมิดบรรทัดฐานระหว่างประเทศว่าด้วยการใช้อาวุธเคมี ต้องรับผิดชอบต่อการกระทำของตนเอง" เธอกล่าว
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ในวันเดียวกัน โฆษกของทั้งทำเนียบขาวและกระทรวงต่างประเทศได้กล่าวว่า สหรัฐจะดำเนินการตามแผนการของตนเอง
สหรัฐกำลังต้องการความร่วมมือทางการทหารในการโจมตีซีเรีย หลังจากที่รัฐบาลซีเรียถูกกล่าวหาว่าใช้อาวุธเคมีสังหารประชาชนราว 1,300 คนบริเวณชานกรุงดามัสกัส เมื่อวันที่ 21 ส.ค.ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ดี ในวันนี้สภาผู้แทนราษฎรอังกฤษได้ลงมติคัดค้านการดำเนินการทางทหารของรัฐบาลต่อซีเรีย โดยนายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอนของอังกฤษ ได้กล่าวหลังการลงมติว่า มีความชัดเจนว่า “รัฐสภาอังกฤษไม่ต้องการที่จะเห็นการใช้กำลังทางทหารของอังกฤษ ซึ่งสะท้อนมุมมองของประชาชนชาวอังกฤษ"
สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานว่า เจ้าหน้าที่ระดับสูงคนหนึ่งของสหรัฐเปิดเผยว่า มีความเป็นไปได้ที่สหรัฐอาจเข้าจัดการซีเรียโดยลำพัง
"เราสนใจความคิดเห็นของผู้อื่น เราให้ความสำคัญกับกระบวนการ แต่เราต้องตัดสินใจในสิ่งที่เราจำเป็นต้องตัดสินใจ" เจ้าหน้าที่รายหนึ่งกล่าว