ประธานาธิบดีบารัค โอบามา กล่าวเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาว่า แม้ว่าเขาได้ตัดสินใจใช้กำลังทหารจัดการกับรัฐบาลซีเรีย แต่เขาก็จะขอความเห็นชอบจากสภาคองเกรสตามที่สมาชิกรัฐสภาส่วนหนึ่งต้องการเสียก่อน พร้อมกับย้ำว่า การดำเนินการทางทหารจะ “อยู่ภายในระยะเวลา และขอบเขตที่จำกัด" และจะไม่เกี่ยวข้องกับ “การรบภาคพื้นดิน"
ในวันเดียวกันนั้น ทำเนียบขาวได้ยื่นร่างแผนการดำเนินการต่อสภาคองเกรส เพื่อขออำนาจให้กองทหารสหรัฐเข้าโจมตีซีเรียซึ่งใช้อาวุธเคมีในบริเวณชานกรุงดามัสกัส เมื่อวันที่ 21 ส.ค. ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ หน่วยข่าวกรองสหรัฐอ้างว่า มีผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 1,429 ราย รวมถึงเด็ก 426 ราย จากการใช้อาวุธเคมีดังกล่าว
แผนการแก้ปัญหาระบุถึงวัตถุประสงค์ของการโจมตีทางทหารในซีเรียว่า ควรเป็นไปเพื่อ “ยับยั้ง ทำลาย ป้องกัน และลดศักยภาพ" ของการใช้อาวุธเคมีใดๆ หรืออาวุธอื่นๆที่มีอานุภาพในการทำลายล้างสูงในอนาคต"
คณะทำงานของโอบามา ได้เริ่มรณรงค์ชักชวนให้สมาชิกสภาคองเกรสอนุมัติแผนการดังกล่าว ขณะที่เจ้าหน้าที่อาวุโสบางส่วน และสมาชิกสภานิติบัญญัติระดับสูงกลุ่มหนึ่งทั้งจากพรรคเดโมแครต และรีพับลิกันได้ร่วมกันหาข้อสรุปเกี่ยวกับซีเรียเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
ฝ่ายค้านมองว่า สหรัฐไม่จำเป็นต้องโจมตีซีเรีย
คณะทำงานของโอบามายังต้องเผชิญหน้ากับนักอนุรักษ์นิยม ผู้นิยมลัทธิโดดเดี่ยว และสมาชิกพรรครีพับลิกันที่มีกลุ่ม Tea Party หนุนหลังอยู่ในสภาคองเกรส ซึ่งกลุ่มดังกล่าวยังคงตั้งข้อสงสัยถึงเรื่องความจำเป็น และความสำเร็จในการแทรกแซงทางทหารของสหรัฐในซีเรีย ซึ่งจะก่อให้เกิดการลักลอบก่อการร้ายในสหรัฐได้
แรนด์ พอล วุฒิสมาชิกจากพรรครีพับลิกัน และตัวเก็งผู้สมัครลงเลือกตั้งประธานาธิบดีในปี 2560 กล่าวว่า “ผมคิดว่า การเข้าไปพัวพันกับสงครามกลางเมืองของซีเรียเป็นการกระทำที่ผิดพลาด"
สก็อต ริเกล สมาชิกสภาผู้แทนราษฏรจากพรรครีพับลิกัน และเป็นผู้สนับสนุนให้ปธน. โอบามายื่นเรื่องขอความเห็นชอบจากสภาคองเกรสก่อนที่จะโจมตีซีเรีย กล่าวว่า เขาคัดค้านการใช้กำลังทางทหารเสมอ “ถ้าผมจำเป็นจะต้องลงคะแนนเสียงวันนี้ ผมจะโหวต ไม่เห็นด้วย"
ส่วนนายจิม อินโฮฟ วุฒิสมาชิกระดับสูงจากคณะกรรมาธิการวุฒิสภาฝ่ายการทหาร (Senate Armed Services Committee) ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ฟ็อกซ์ นิวส์ ซันเดย์ ว่า เขาไม่เชื่อว่า สภาคองเกรสจะอนุมัติให้โจมตีซีเรีย พร้อมเตือนว่า การแทรกแซงทางการทหารในซีเรียอาจนำไปสู่สงครามในภูมิภาคตะวันออกกลางได้
ฝ่ายสนับสนุนชี้ ความมั่นคงของสหรัฐตกอยู่ในภาวะสุ่มเสี่ยง
สมาชิกสภาคองเกรสบางส่วนที่สนับสนุนแผนการโจมตีทางทหารของโอบมา ระบุว่า ความมั่นคงของสหรัฐจะตกอยู่ในภาวะสุ่มเสี่ยง
นางแนนซี่ เพโลซี ผู้นำเสียงข้างน้อยในสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคเดโมแครต และนายแฮร์รี่ รี้ด ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภาสหรัฐ สนับสนุนการตัดสินใจของปธน. โอบามาอย่างเต็มที่
ด้านวุฒิสมาชิกจอห์น แม็คเคน สมาชิกระดับสูงของพรรครีพับลิกัน และหนึ่งในคณะกรรมาธิการวุฒิสภาฝ่ายการทหาร กล่าวว่า เขาสนับสนุนการโจมตีซีเรีย และต้องการจะเห็นแผนการ และกลยุทธ์ฉบับสมบูรณ์ก่อนที่จะโหวต “เห็นด้วย"
ในขณะเดียวกัน แม็คเคนได้ขอให้ปธน. โอบามา ได้ขยายระดับการโจมตีซีเรียเพื่อโค่นอำนาจประธานาธิบดีอัสซาด และปิดทางที่จะมีการใช้อาวุธเคมีในอนาคตต่อไป สำนักข่าวซินหัวรายงาน