เมื่อวานนี้ ประธานาธิบดีบารัค โอบามาของสหรัฐได้เชิญนายจอห์น แม็คเคนและนางลินซีย์ เกรแฮม วุฒิสมาชิกสังกัดพรรครีพับลีกัน มายังทำเนียบขาวเพื่อหารือประเด็นการแทรกแซงทางทหารในซีเรีย โดยวุฒิสมาชิกดังกล่าวต้องการให้มีการดำเนินมาตรการที่นอกเหนือจากเพียงแค่การโจมตีด้วยขีปนาวุธ
สหรัฐอ้างว่า กองกำลังของรัฐบาลซีเรีย ภายใต้การนำของประธานาธิบดีบาซาร์ อัล-อัสซาด ได้ใช้อาวุธเคมีโจมตีพลเมืองในบริเวณชานกรุงดามัสกัส เมืองหลวงของซีเรียเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม เป็นเหตุให้มีประชาชนเสียชีวิต 1,429 ราย ซึ่งรวมถึงเด็กด้วย 426 ราย แต่รัฐบาลซีเรียปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว
หลังจากการประชุมร่วมกับปธน.สหรัฐ วุฒิสมาชิกแม็คเคนได้ออกมาเตือนถึงอันตรายจากการไม่สนับสนุนปธน.สหรัฐในการใช้กำลังทหารต่อซีเรีย
เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่อาวุโสของสหรัฐได้จัดการบรรยายสรุปเป็นการเฉพาะกับคณะสมาชิกสภานิติบัญญัติระดับสูง โดยพยายามที่จะโน้มน้าวให้พวกเขาสนับสนุนการใช้กำลังทหารต่อซีเรีย และเพื่อได้รับเสียงสนับสนุนจากการลงมติของสภาคองเกรสในการพิจารณาอนุมัติการใช้กำลังทหารของสหรัฐ
เจ้าหน้าที่อาวุโสพยายามโน้มน้าวสมาชิกสภานิติบัญญัติให้ทราบถึงเหตุผลที่รัฐบาลสหรัฐต้องตอบโต้ในวิกฤตซีเรียครั้งนี้ ในความพยายามเพื่อรวบรวมเสียงสนับสนุนเพิ่มขึ้นสำหรับการตัดสินใจของปธน.โอบามาที่จะใช้กองกำลังทหารโจมตีซีเรีย
ขณะเดียวกัน หลักฐานตัวอย่างที่คณะผู้ตรวจสอบรวบรวมได้จากที่เกิดเหตุการณ์โจมตีในซีเรียเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม ได้ถูกส่งมาจากกรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์เมื่อวานนี้ และจะมาถึงห้องปฏิการที่กำหนดไว้เพื่อการวิเคราะห์ในเร็วๆนี้
คณะตรวจสอบของยูเอ็น ซึ่งนำโดยนายอาเก้ เซลสตรอม ผู้เชี่ยวชาญชาวสวีเดน ถูกจัดตั้งขึ้นโดยนายบัน คี-มูน เลขาธิการยูเอ็นเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมาตามคำเรียกร้องของรัฐบาลซีเรีย คณะผู้ตรวจสอบได้รับคำสั่งให้ออกจากซีเรียเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาเพื่อเดินทางกลับมายังกรุงเฮก
โฆษกยูเอ็นกล่าวว่า นายบัน คี-มูนได้หารือกับนายเซลสตรอมถึงแนวทางที่จะเร่งกระบวนการการวิเคราะห์หลักฐานตัวอย่าง แต่ไม่ได้เปิดเผยว่ากระบวนการดังกล่าวจะใช้เวลานานเพียงใด สำนักข่าวซินหัวรายงาน