นายบันได้ให้ข้อมูลก่อนที่เขาจะเดินทางไปยังเมืองเซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก ประเทศรัสเซีย เพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำจี 20 ในวันพฤหัสบดีและศุกร์นี้ว่า วัตถุตัวอย่างที่เก็บมาจากสถานที่เกิดเหตุโจมตีด้วยอาวุธเคมีเมื่อวันที่ 21 ส.ค.ในบริเวณชานกรุงดามัสกัสนั้น จะถูกนำไปถึงห้องปฏิบัติการในวันนี้ และทีมตรวจสอบของยูเอ็นจะเร่งดำเนินการวิเคราะห์หลักฐานอย่างเต็มความสามารถ
เขากล่าวกับสื่อมวลชนว่า "ผมรู้สึกยินดีที่จะแจ้งให้ทราบว่า วัตถุตัวอย่างทางชีวการแพทย์และวัตถุแวดล้อมทั้งหมดจะถูกนำไปถึงยังห้องปฏิบัติการที่กำหนดไว้ในพุธนี้"
เขากล่าวว่า "เรากำลังดำเนินงานอย่างสุดความสามารถเพื่อเร่งกระบวนการตรวจสอบหลักฐาน" โดยย้ำถึงความสำคัญที่จะไม่กระทบต่อกำหนดเวลาเชิงวิทยาศาสตร์ที่จำเป็นสำหรับการวิเคราะห์ความถูกต้อง และจะดำเนินการวิเคราะห์วัตถุตัวอย่างด้วยความเป็นกลาง อีกทั้งจะปฏิบัติงานตามมาตรฐานสากลอย่างเคร่งครัด
นอกจากนี้ เลขาฯยูเอ็นยังเสริมว่า เขาได้กล่าวสรุปสถานะการสืบสวนโดยรวมให้กับสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงทั้ง 15 ประเทศแล้ว และได้มอบหมายให้นางแองเจลา เคน หัวหน้าหน่วยปลดอาวุธของยูเอ็น กล่าวสรุปให้กับประเทศสมาชิกยูเอ็นอีกด้วย
นายบันได้แสดงจุดยืนอย่างชัดเจนว่าการใช้อาวุธต้องห้ามนั้นเป็นสิ่งที่รับไม่ได้ และได้เรียกร้องให้ประเทศสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงร่วมกันเสนอแนวทางตอบโต้ที่เหมาะสม ถ้าพิสูจน์ได้ว่าข้อกล่าวหาการใช้อาวุธเคมีมีมูลความจริง
"หลังจากที่ผมได้พูดย้ำมาอย่างต่อเนื่อง หากข้อกล่าวหาได้รับการยืนยันแล้ว การใช้อาวุธเคมีไม่ว่าจะมาจากฝ่ายใดหรือในสถานการณ์ใดก็ตาม ถือว่าเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง และยังนับเป็นการก่ออาชญากรรมสงครามอย่างอุกอาจ" เขากล่าว "ผู้ที่กระทำผิดควรถูกนำเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และไม่ควรได้รับการยกเว้นโทษ" สำนักข่าวซินหัวรายงาน