ภายหลังกลับจากการเข้าร่วมประชุม G20 ที่รัสเซียซึ่งมีเรื่องของซีเรียประเด็นหลักของการประชุมนั้น นายบันก็ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนในสหรัฐอเมริกาเป็นครั้งแรกว่า “ผมกำลังผลักดันให้คณะมนตรีความมั่นคงเรียกร้องให้ซีเรียขนย้ายอาวุธเคมี และสารตั้งต้นทางเคมีไปเก็บไว้ในสถานที่ซึ่งจะสามารถดำเนินการทำลายได้อย่างปลอดภัยโดยเร็วที่สุด"
การเรียกร้องดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่นายเซอร์ไห ลาฟรอฟ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของรัสเซียได้เสนอให้มีการส่งมอบอาวุธเคมีของซีเรียให้อยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของนานาประเทศ
นายบันยังได้แสดงความผิดหวังเกี่ยวกับวิกฤติการณ์ในซีเรียที่ยืดเยื้อมาเป็นเวลากว่า 2 ปีครึ่งที่ผ่านมา ซึ่งคณะมนตรีความมั่นคงมีความเห็นที่แตกต่างกันมากจนเกินไปสำหรับการตัดสินใจ โดยเฉพาะรัสเซีย และจีนซึ่งเป็นพันธมิตรของซีเรียที่ได้ไม่เห็นด้วยกับแนวทางแก้ปัญหา 3 ประการ โดยโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นในซีเรียนั้น ได้คร่าชีวิตผู้คนไปมากกว่า 110,000 ราย
“ความขัดแย้งที่ยืดเยื้อมาเป็นเวลากว่า 2 ปีครึ่งในซีเรียทำให้เกิดความไร้ประสิทธิภาพที่น่าอับอายในคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาติ" เขากล่าว
ในขณะเดียวกัน ทั่วโลกยังเฝ้ารอผลการตรวจสอบการใช้อาวุธเคมีในซีเรียจากคณะตรวจสอบของยูเอ็น ซึ่งได้รวบรวมวัตถุตัวอย่าง และหลักฐานจากบริเวณชานกรุงดามัสกัสซึ่งรัฐบาลซีเรียถูกกล่าวหาว่า ใช้อาวุธเคมีทำร้ายประชาชนในวันที่ 21 ส.ค. และทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 1,420 รายตามที่สหรัฐได้ระบุไว้ สำนักข่าวเกียวโดรายงาน