นายเซอร์ไก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศรัสเซีย ได้เรียกร้องให้มีการตรวจสอบเพิ่มเติม โดยระบุว่า รัสเซียนั้นมองว่า เหตุโจมตีที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 21 สงค.นั้น เป็นการกระทำที่ยั่วยุของทางฝ่ายกลุ่มกบฎ
การแสดงความเห็นดังกล่าวถือเป็นการตอกย้ำถึงความคิดเห็นที่ไม่ตรงกัน ในขณะที่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติได้พยายามที่จะเจรจาต่อรองเพื่อหาข้อสรุปในการกำหนดให้ซีเรียยกเลิกอาวุธเคมี เพื่อให้เป็นตามข้อตกลงระหว่างสหรัฐและรัสเซีย โดยนายบัน กี มุน เลขาธิการยูเอ็น กล่าวในวันนี้ว่า เขาหวังว่าคณะมนตรีความมั่นคงจะสามารถลงคะแนนเสียงในเรื่องนี้ได้สัปดาห์หน้า
ทางด้านประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐ กล่าวว่า ข้อมูลที่ได้มีการรวบรวมมาจากพื้นที่ที่มีการโจมตีด้วยอาวุธเคมีโดยเจ้าหน้าที่ด้านอาวุธเคมีของยูเอ็น ซึ่งได้ยืนยันว่ามีการใช้ก๊าซซารินนั้น บ่งบอกเป็นนัยว่า รัฐบาลซีเรียอยู้เบื้องหลังของเหตุการณ์ แต่ทางเจ้าหน้าที่ตรวจสอบของยูเอ็นไม่สามารถสรุปแบบฟันธงได้ว่าฝ่ายใดเป็นผู้ลงมือใช้อาวุธเคมีสังหารประชาชน เนื่องจากกฎของยูเอ็นไม่ได้อนุญาตให้ทำเช่นนั้น
โอบามาให้สัมภาษณ์กับทางสถานีโทรทัศน์เทเลมันโดว่า เมื่อคุณได้เห็นรายละเอียดแล้ว รวมทั้งหลักฐาน คงจะเห็นว่า ผู้อยู่เบื้องหลังของเหตุการณ์ในการใช้ก๊าซซาริน จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากทางรัฐบาล