โฆษกยูเอ็นแจงรายงานการตรวจสอบในซีเรียอิงหลักการวิทยาศาสตร์และไม่ขึ้นอยู่กับฝ่ายใด

นายเนเซอร์กี้ได้ออกแถลงการณ์ในการสรุปข่าวประจำวัน เมื่อเขาถูกสอบถามถึงข้อมูลที่ทางรัสเซียระบุว่าได้รับทราบเกี่ยวกับเหตุโจมตีเมื่อวันที่ 21 ส.ค. ที่เขตโกตาของซีเรีย

คณะผู้ตรวจสอบของยูเอ็นได้สรุปรายงาน ซึ่งยืนยันได้ว่า เหตุโจมตีด้วยอาวุธเคมีเมื่อวันที่ 21 ส.ค. ที่ชานกรุงดามัสกัส ประเทศซีเรียนั้น เกิดขึ้นจริง

นายเนเซอร์กี้กล่าวว่า "ทางสหประชาชาติกำลังตรวจสอบกับผู้แทนถาวรจากรัสเซีย เพื่อสอบถามว่าจริงๆแล้วนาย (เซอร์ไก) ริยาบคอฟ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงต่างประเทศรัสเซีย ได้กล่าวอะไรไว้ในกรุงดามัสกัส"

รายงานระบุว่า นายริยาบคอฟได้กล่าวไว้เมื่อวานนี้ว่า คณะผู้ตรวจสอบของยูเอ็นไม่ได้ให้ความสนใจอย่างเพียงพอต่อหลักฐานที่ทางรัฐบาลซีเรียมอบให้

โฆษกกล่าวต่อ "เมื่อพิจารณาดูแล้ว ความคิดเห็นที่ว่านี้เป็นความพยายามเพื่อตั้งข้อสงสัยต่อคณะผู้ตรวจสอบที่ท่านเลขาธิการยูเอ็นได้จัดตั้งขึ้น ซึ่งนำทีมโดยศาสตราจารย์ อาเค เซลล์สตรอม รวมทั้งความน่าเชื่อถือของรายงานที่มีการดำเนินงานอย่างเที่ยงธรรมรอบคอบ"

นายบัน คี-มูน เลขาธิการยูเอ็นได้จัดตั้งทีมสืบสวนขึ้นเมื่อเดือนมี.ค.ตามคำเรียกร้องของรัฐบาลซีเรีย เพื่อดำเนินการตรวจสอบว่ามีการใช้อาวุธเคมีเกิดขึ้นจริงหรือไม่ แต่ไม่ได้มีการระบุว่าฝ่ายใดเป็นผู้โจมตี

ในขณะเดียวกัน โฆษกย้ำว่า นายบันได้กล่าวมาโดยตลอด ซึ่งรวมถึงเมื่อวันอังคารที่ผ่านมากับสมาชิกสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติทั้ง 193 ประเทศว่า ทางคณะผู้ตรวจสอบจะเดินทางกลับไปยังซีเรียให้เร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ เพื่อการสืบสวนในเมืองข่าน อัล-อัซซาล รวมถึงข้อกล่าวหาที่มีความน่าเชื่อถือซึ่งยังไม่ได้รับการตรวจสอบ ก่อนที่จะจัดทำรายงานการสืบสวนให้แล้วเสร็จ

รายงานดังกล่าวคาดว่า น่าจะเสร็จเป็นที่เรียบร้อยหลังการดำเนินงานเสร็จสิ้น นายเนเซอร์กี้เสริม รวมถึงรายงานเหตุการณ์เมื่อวันที่ 21 ส.ค. ซึ่งได้คร่าชีวิตผู้คนไปหลายร้อยราย

ทั้งนี้ รัฐบาลซีเรียและฝ่ายต่อต้านต่างกล่าวหาอีกฝ่ายว่าเป็นผู้ใช้อาวุธเคมีในปัญหาความขัดแย้งนี้ สำนักข่าวซินหัวรายงาน