เยอรมนีเปิดคูหาเลือกตั้งแล้ว คาด “แมร์เคิล" เป็นนายกฯต่ออีกสมัย

ข่าวต่างประเทศ Sunday September 22, 2013 13:31 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ชาวเยอรมันเริ่มออกไปใช้สิทธิออกเสียงเลือกตั้งทั่วไปแล้วในช่วงเช้าวันนี้ โดยชาวเยอรมันต้องตัดสินใจว่าจะยังคงให้รัฐบาลชุดปัจจุบันบริหารประเทศต่อไปหรือไม่

ทั้งนี้ ตามระบบการเลือกตั้งของเยอรมนีนั้น ผู้มีสิทธิลงคะแนนเสียงเลือกตั้งแต่ละคนมีสิทธิลงคะแนน 2 ครั้ง โดยครั้งแรกเป็นการเลือกผู้สมัครรับเลือกตั้งเพื่อเป็นผู้แทนในเขตเลือกตั้งของตน และครั้งที่สองเป็นการเลือกพรรคการเมือง

ผู้แทนจากเขตเลือกตั้งต่างๆมีจำนวนทั้งสิ้น 299 ที่นั่ง ซึ่งแต่ละคนจะต้องได้คะแนนเสียงส่วนใหญ่จากแต่ละเขตจึงจะสามารถมีสิทธิเข้าไปทำหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร

ส่วนอีก 299 ที่นั่งมาจากสัดส่วนของแต่ละพรรคการเมือง ซึ่งจะประเมินจากคะแนนเสียงที่พรรคได้รับจากการลงคะแนนทั่วประเทศ แต่มีข้อแม้ว่าพรรคการเมืองที่จะได้เข้าไปนั่งในสภาผู้แทนราษฎรจะต้องได้คะแนนเสียงอย่างน้อยที่สุด 5% หรือคิดเป็นจำนวนผู้แทนอย่างน้อย 3 ที่นั่ง

ทั้งนี้ ผู้สมัครรับเลือกตั้งที่ชนะการเลือกตั้งในเขตต่างๆจะได้สิทธิในการเข้าไปนั่งในสภาผู้แทนราษฎรอย่างแน่นอน ไม่ว่าผลคะแนนของพรรคการเมืองที่พวกเขาสังกัดอยู่จะออกมาเช่นไรก็ตาม นี่จึงส่งผลให้จำนวนที่นั่งทั้งหมดในรัฐสภามักจะสูงกว่าจำนวนโดยหลักการที่ 598 ที่นั่ง และภายใต้ระบบการเลือกตั้งแบบนี้ จึงไม่มีพรรคการเมืองพรรคใดได้รับคะแนนเสียงข้างมากอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดมานับแต่ปี 2500 หรือกว่า 50 ปีมาแล้ว ดังนั้น รัฐบาลผสมจึงกลายเป็นรูปแบบมาตรฐานของการเมืองเยอรมนีไปโดยปริยาย

สำหรับการเลือกตั้งในครั้งนี้ ดูเหมือนว่า อังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีหญิงคนปัจจุบันของเยอรมนี จะมีภาษีดีกว่าผู้นำฝ่ายค้านในการก้าวขึ้นมาบริหารประเทศต่ออีกสมัย เมื่อพิจารณาจากฝีไม้ลายมือและผลงานในการจัดการกับวิกฤตหนี้ยูโรโซน ด้วยการตัดสินใจที่เด็ดขาดและจริงจังในการผลักดันให้มีการลดหนี้สินของประเทศต่างๆโดยการลดรายจ่ายของภาครัฐบาล จนนางแมร์เคลกลายเป็นเครื่องหมายการค้าของ “มาตรการรัดเข็มขัด"

การรณรงค์มาตรการรัดเข็มขัดดังกล่าวได้สร้างความไม่พอใจอย่างมากแก่ประชาชนในกลุ่มประเทศที่ประสบปัญหาหนี้สินท่วมตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศทางตอนใต้ของยุโรป ซึ่งเศรษฐกิจที่อยู่ในภาวะชะงักงันอยู่แล้ว ต้องซบเซาหนักขึ้นไปอีกจากมาตรการลดรายจ่ายของภาครัฐ

แต่ในเยอรมนีเองนั้น คะแนนนิยมของนางแมร์เคลกลับเพิ่มขึ้นอย่างมาก ซึ่งเป็นผลมาจากแนวทางที่เธอจัดการกับวิกฤตเศรษฐกิจภูมิภาค และแม้ว่าเยอรมนีจะยังคงมีภาระอันหนักอึ้งในการเป็นผู้จ่ายเงินสมทบรายใหญ่ให้กับภูมิภาค แต่เศรษฐกิจเยอรมนีที่ปรับตัวดีขึ้นในช่วงที่ผ่านมาก็ถือเครื่องยืนยันถึงทักษะและความเชี่ยวชาญด้านการบริหารจัดการเศรษฐกิจของนายกรัฐมนตรีหญิงของเยอรมนี ซึ่งตอกย้ำให้เห็นว่าเยอรมนีเป็นกลจักรขับเคลื่อนการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและเป็นเสาหลักแห่งความมีเสถียรภาพของยูโรโซน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ