สมาชิกวุฒิสภาเหล่านี้มองว่า มีความเป็นไปได้ที่จะมีการปรับลดโครงการของทางรัฐบาลลงโดยอัตโนมัติด้วยการลดค่าใช้จ่ายลง ซึ่งหนึ่งในโครงการดังกล่าวคือ ข้อเสนอของโอบามาที่ต้องการให้มีการลดปริมาณการเพิ่มต้นทุนในชีวิตประจำวันด้านความมั่นคงทางสังคมลง ซึ่งจะช่วยประหยัดงบประมาณไปได้ประมาณ 1.30 แสนล้านดอลลาร์ในช่วงระยะเวลา 10 ปี
แนวทางดังกล่าวมีเป้าหมายที่การดึงเสียงสนับสนุนจากพรรคเดโมแครตในวุฒิสภาให้ได้มากพอ เพื่อบีบโอบามาให้ยอมรับการเปลี่ยนแปลง เพื่อที่จะนำไปสู่การสนับสนุนโครงการเมดิแคร์และโครงการด้านความมั่นคงทางสังคม โดยพรรครีพับลิกันอาจจะคว้าชัยที่จะทำให้เกิดความสมดุลในการปรับเพดานหนี้
การโต้แย้งกันเรื่องการจัดเก็บภาษีและการใช้จ่ายนั้น คงจะเกิดขึ้นอีกครั้ง ในขณะที่รีพับลิกันไม่เห็นด้วยกับข้อเรียกร้องของเดโมแครตที่ต้องการให้มีการเพิ่มงบประมาณ
ประการแรก ทางวุฒิสภาจะต้องหาทางออกให้กับปัญหาที่ทางพรรครีพับลิกันปฏิเสธที่จะอนุมัติให้มีการจัดงบประมาณให้กับกฎหมาย 2010 Affordable Care Act ที่ทางพรรคให้ความสำคัญกับการหาเงินอุดหนุนโครงการต่างๆของรัฐบาลหลังจากวันที่ 30 ก.ย. ส่วนขั้นตอนต่อไปคือ การเพิ่มเพดานหนี้ ซึ่งกระทรวงคลังระบุว่า อาจจะแล้วเสร็จอย่างเร็วที่สุดในช่วงกลางเดือนต.ค.
การคัดค้านจากทางฝั่งรีพับลิกัน
ผลการสำรวจความคิดเห็นที่จัดทำโดยวอชิงตัน โพสต์ชี้ว่า สมาชิกรีพับลิกัน 61% ไม่เห็นด้วยกับการเพิ่มเพดานหนี้ ขณะที่นายจอห์น โบห์เนอร์ โฆษกสภาผู้แทนฯกล่าวเมื่อเดือนที่แล้วว่า คาดว่า จะต้องมีการห้ำหั่นกันอย่างเต็มที่ในเรื่องมาตรการดังกล่าว
ขณะที่สมาชิกเดโมแครตคาดว่า รีพับลิกันจะยอมทำตามมากกว่าที่จะปล่อยให้สหรัฐต้องผิดนัดชำระหนี้ นายเจย์ คาร์นีย์ โฆษกกล่าวว่า โอบามาคงจะไม่ปล่อยให้ตัวเองต้องตกเป็นเบี้ยรองในการเจรจาต่อรองเรื่องเพดานหนี้
ก่อนหน้านี้ โอบามาเคยกล่าวว่า เขาเต็มใจที่จะเจรจาต่อรองเพื่อลดต้นทุน (entitlement cost) จากแผนงบประมาณล่าสุดของโอบามานั้น โอบามาได้เสนอให้มีการลดงบในโครงการเมดิแคร์ลง 3.71 แสนล้านดอลลาร์ในช่วงระยะเวลา 10 ปี ด้วยการนำเงินจากกลุ่มโรงพยาบาล แผนการดำเนินการด้านการดูแล และเนิร์สซิ่ง โฮม โดยค่าใช้จ้ายโครงการด้านการดูแลสุขภาพและ entitlement cost จะคิดเป็นสัดส่วน 43% ของงบประมาณสหรัฐ
ขณะที่ร่างงบประมาณปี 2557 ของโอบามานั้นก็ได้มีการเสนอให้เก็บเงินให้ได้ 5 หมื่นล้านดอลลาร์ในช่วงระยะเวลา 10 ปี ด้วยการกำหนดให้ผู้ที่ร้ำรวยนั้นจ่ายงบเมดิแคร์ พาร์ท บี และพาร์ท บี มากกขึ้นกว่าเดิม ซึ่งเมดิแคร์ทั้ง 2 พาร์ทนี้จะเริ่มใช้ในปี 2560
การปรับลดโดยอัตโนมัติ
รีพับลิกันอาจจะเต็มใจที่จะมีการแทนที่งบ 1.2 ล้านล้านดอลลาร์ในการปรับลดการใช้จ่ายลงแบบอัตโนมัติกับโครงการภายในประเทศและโครงการด้านทหารต่างๆในช่วง 9 ปีข้างหน้า เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนกับการปรับลดงบในโครงการความมั่นคงทางสังคมและเมดิแคร์
สมาชิกวุฒิสภาและสภาผู้แทนฯของรีพับลิกันต่างใช้แนวทางเดียวกันในเรื่องโครงการ entitlement โดยข้อเสนอของสภาผู้แทนฯที่อาจจะมีการลงคะแนนเสียงในสัปดาห์นี้ จะคงเพดานหนี้ไปจนกระทั่งถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2557 นอกเหนือไปจากการชะลอกฎหมายด้านสุขภาพ ก็จะมีการคิดค่าบริการในเรื่องผู้รับสิทธืประโยชน์ที่มีรายได้สูงจากโครงการเมดิแคร์มากขึ้น
ความพยายามที่จะชะลอโครงการที่ถูกขนานนามว่าโอบามาแคร์ไปจนถึงมาตรการที่เกี่ยวกับหนี้สินอาจจะได้รับเสียงปฏิเสธจากวุฒิสภาได้