โอบามาได้พบกับส.ส.พรรคเดโมแครตที่ทำเนียบขาวเป็นเวลากว่า 1 ชั่วโมง เพื่อหาทางเปิดหน่วยงานรัฐบาลที่ปิดทำการไปบางส่วนให้ได้
โดยโอบามาได้เปิดกว้างสำหรับเรื่องกรอบการเจรจาต่อรองที่จะใช้ในการเจรจาเรื่องวิกฤตการคลัง หลังจากที่สภาคองเกรสได้อนุมัติกฎหมายให้เงินสนับสนุนรัฐบาลในระยะสั้น ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่เป็นบวกสำหรับการแก้ปัญหาการคลัง
ทำเนียบขาวระบุในรายงานการประชุมว่า โอบามาได้ขอบคุณส.ส.พรรคเดโมแครตที่ให้การสนับสนุนญัตติที่ปราศจากเงื่อนไขในระยะสั้น เพื่อที่จะได้เปิดทำการหน่วยงานรัฐบาลอีกครั้ง รวมทั้งยุติความสูญเสียที่เกิดขึ้นกับภาคครัวเรือนทั่วประเทศอันเนื่องมาจากการปืดหน่วยงานบางส่วนของรัฐบาลสหรัฐ
สำหรับลักษณะของข้อความเรื่องงบประมาณของรัฐบาลสหรัฐนั้น ญัตติที่ปราศจากเงื่อนไขหมายถึงกฎหมายที่ให้เงินสนับสนุนรัฐบาลในระยะสั้นโดยไม่มีการตั้งเงื่อนไขใดๆ
รายงานระบุด้วยว่า โอบามาและส.ส.เดโมแครตเชื่อเช่นเดียวกันว่า ทั้ง 2 ฝ่ายไม่สามารถปล่อยให้ปัญหาความขัดแย้งเพียงหนึ่งเดียวของส.ส.ในสังกัดพรรครีพับลิกันกลายเป็นปัจจัยที่จะเรียกร้องเพื่อแลกเปลี่ยนกับการเปลี่ยนแปลงกฎหมายและการทำหน้าที่ของคองเกรส
รัฐบาลสหรัฐต้องปิดหน่วยงานบางส่วนลง หลังจากที่คองเกรสไม่ได้อนุมัติกฎหมายให้เงินสนับสนุนได้ก่อนวันที่ 1 ต.ค. ซึ่งเป็นวันเริ่มต้นวันแรกของปีงบประมาณ 2557 เนื่องจากส.ส.รีพัยลิกันเรียกร้องให้มีการเปลี่ยนแปลงกฎหมายโอบามาแคร์ เพื่อแลกเปลี่ยนกับการให้เงินสนุบสนันรัฐบาล ซึ่งเป็นเรื่องที่ทำเนียบขาวไม่เห็นด้วย
รายงานระบุว่า โอบามาได้หารือถึงเรื่องความต้องการที่จะทำให้ทั้ง 2 ฝ่ายได้หารือกันเกี่ยวกับแนวทางที่จะบรรลุข้อตกลงด้านงบประมาณได้ในวงกว้าง เพื่อให้เกิดการจ้างงาน การขยายตัวของเศรษฐกิจ และชนชั้นกลางที่แข็งแกร่ง เมื่อมีการป้องกันไม่ให้เกิดการผิดนัดชำระหนี้และเปิดทำการหน่วยงานรัฐได้แล้ว
ยิ่งไปกว่านั้น โอบามาได้กำหนดระยะเวลาที่ประชุมกับสมาชิกวุฒิสภาพรรคเดโมแครตและแกนนำส.ส.รีพับลิกันในช่วงบ่ายวันนี้ที่ทำเนียบขาว
สหรัฐต้องเผชิญกับเส้นตายด้านการคลังอีกรอบ เมื่อเจค็อบ ลิว รัฐมนตรีกระทรวงคลังสหรัฐกล่าวกับสภาคองเกรสว่า รัฐบาลสหรัฐจะชนเพดานหนี้ที่ 16.7 ล้านล้านดอลลาร์ในวันที่ 17 ต.ค. และหากสหรัฐไม่สามารถปรับเพิ่มเพดานหนี้ได้ก็จะทำให้เกิดการผิดนัดชำระหนี้ อย่างไรก็ดี ทั้ง 2 พรรคยังไม่สามารถตกลงกันได้เกี่ยวกับรายละเอียดของการเพิ่มอำนาจในการกู้ยืม
นอกเหนือไปจากความพยายามที่จะทำให้มีการอนุมัติกฎหมายระยะสั้นของพรรคเดโมแครตเพื่อที่จะได้เปิดทำการหน่วยงานรัฐบาลแล้ว ขณะที่วุฒิสมาชิกเดโมแครตบางรายยังคงพิจารณาเรื่องการอนุมัติให้มีการปรับเพิ่มเพดานหนี้จำนวน 1 ล้านล้านดอลลาร์อยู่ เพื่อที่จะสร้างความมั่นใจให้กับรัฐบาลได้ว่า จะสามารถทำงานได้ต่อไปจนถึงสิ้นปี 2557 ขณะที่รีพับลิกันอยากจะพ่วงเรื่องการปฏิรูปและเงื่อนไขอื่นๆเข้าไปกับการปรับเพิ่มเพดานหนี้ด้วยเช่นกัน
พอล ไรอัน สมาชิกรีพับลิกันที่ได้รับการเสนอชื่อให้ชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีสหรัฐในปี 2555 นั้น ระบุในบทความของวอลล์สตรีทเจอร์นัล ว่า เรามีโอาสที่จะสรุปเรื่องหนี้ของประเทศและเดินหน้าเศรษฐกิจใหม่ หากเราเริ่มการเจรจาในขณะนี้ และเพื่อเป็นการปลดล็อค ทั้ง 2 พรรคควรจะตกลงกันให้ได้ในเรื่องการปฏิรูปโครงการที่เป็นสิทธืประโยชน์พิเศษและรหัสภาษี
ในขณะที่การปิดหน่วยงานรัฐบาลย่างเข้าสู่สัปดาห์ที่ 2 แล้ว และโอบามาก็ปฏิเสธที่จะเปลี่ยนแปลงเนื้อหาในร่างกฎหมายโอบามาแคร์ ขณะที่แกนนำระดับสูงของรีพับลิกันก็ได้เปลี่ยนหัวข้อในการเจรจาต่อรองด้านการคลังจากการสกัดกฎหมายโอบามาแคร์มาเป็นเรื่องการปฏิรูปโครงการที่เป็นสืทธิประโยชน์พิเศษ อย่างไรก็ดี บทความของไรอันไม่ได้พูดถึงเรื่องการปฏิรูปโอบามาแคร์แต่อย่างใด
ไรอัน ซึ่งเป็นประธานคณะรรมการงบประมาณสภาผู้แทนฯ กล่าวว่า โครงการด้านสิทธิประโยชน์เหล่านี้ ได้แก่ เมดิแคร์ เมดิคเอด และประกันสังคม จะเป็นปัจจัยผลักดันหลักที่จะทำให้รัฐบาลสหรัฐขาดดุลในช่วง 10 ปีข้างหน้า และการปฏิรูปโครงการสิทธิประโยชน์และรหัสภาษีเหล่านี้ จะช่วยกระตุ้นการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ
เคธี แมคมอร์ริส ร็อดเจอร์ส ประธานการประชุมของส.ส.รีพับลิกัน กล่าวกับสำนักข่าวซินหัวว่า สหรัฐเผชิญกับทั้งเรื่องวิกฤตหนี้และการควบคุมการใช่จ่ายของรัฐบาลซึ่งเป็นประเด็นที่ควรจะมีการเจรจาต่อรองกันระหว่างรีพับลิกันและเดโมแครต เพื่อแก้ปัญหาการคลัง