นายหลิวให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า “การสักการะศาลเจ้ายาซูคุนิซึ่งสร้างขึ้นเพื่อสรรเสริญอาชญากรก่อให้เกิดคำถามที่ส่งผลต่อกฎบัตรของยูเอ็น" โดยอาชญากรชั้นนำ 14 รายรวมอยู่ในบรรดาอาชญาการที่ได้รับการสรรเสริญจากศาลดังกล่าว
“เรื่องนี้นำมาซึ่งคำถามที่ว่า ผู้นำของประเทศหนึ่งควรจะยึดมั่นกับหลักการ และจุดมุ่งหมายของกฎบัตรยูเอ็น หรือจะเลือกอยู่กับฝ่ายอาชญากรสงคราม"
ทั้งนี้ ศาลเจ้ายาซูคุนิ ซึ่งเป็นศาลที่สร้างขึ้นตามความเชื่อของลัทธิชินโตแห่งนี้ ได้สร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติให้กับผู้เสียชีวิตในสงครามกว่า 2.5 ล้านคน ตลอดจนอาชญากรสงครามทั้งหลาย ซึ่งรวมถึงพลเอกฮิเดกิ โตโจ อดีตนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2
การเดินทางเยือนศาลเจ้ายาซูคุนิของนายอาเบะก่อให้เกิดปฏิกิริยาที่รุนแรงจากประเทศต่างๆในเอเชียที่ถูกญี่ปุ่นรุกรานทำสงคราม แม้แต่สหรัฐอเมริกาซึ่งแทบจะไม่ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นนั้นก็ยังเรียกร้องให้ญี่ปุ่นรักษาความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศเพื่อนบ้าน พร้อมแสดงความผิดหวังต่อการกระทำของนายอาเบะ ซึ่งจะทำให้สถานการณ์ความตึงเครียดในภูมิภาคแย่ลงไปอีก
นอกจากนี้ นายหลิวยังระบุว่า “ศาลเจ้ายาซูคุนิช่วยปกปิดสิ่งไม่ดี อีกทั้งยังยกย่องการรุกราน และป่าวประกาศถึงทัศนคิตทางการทหารของประวัติศาสตร์" พร้อมกล่าวหาว่า นายอาเบะ “ยืนอยู่ข้างเดียวกับฝ่ายผิดในประวัติศาสตร์"
“คำถามก่อให้เกิดข้อสงสัยที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ว่า อาเบะกำลังคิดอะไรอยู่ เขาต้องการพาประเทศไปไหน?"
นายหลิวทิ้งท้ายว่า “ประชาคมโลกควรระมัดระวัง และประกาศเตือนถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้น เนื่องจากอาเบะจะต้องแก้ไขทัศนคติที่ผิดเกี่ยวกับประวัติศาสตร์" และได้เตือนว่า การกระทำของอาเบะอาจนำพาประเทศไปสู่ “เส้นทางที่อันตรายมาก" สำนักข่าวเกียวโดรายงาน