คะแนนความนิยมในโอบามาจากพรรเดโมแครตอยู่ที่ 82% ขณะที่คะแนนความนิยมที่ได้จากพรรครีพับลีกันมีเพียง 11% เท่านั้น ทำให้สัดส่วนต่างกัน 71%
ทั้งนี้ ส่วนต่างดังกล่าวลดลงจากระดับ 76% ในปีที่โอบามาได้รับเลือกตั้งให้กลับเข้ามาดำรงตำแหน่งอีกครั้ง แต่ถือว่ายังคงสะท้อนให้เห็นถึงระดับการแบ่งขั้วทางการเมืองในระดับสูงในแง่คะแนนความนิยมในผลงานของประธานาธิบดีในสมัยที่โอบามายังอยู่ในวาระการดำรงตำแหน่ง
แกลลัพระบุว่า ปีที่ 5 ของวาระการทำหน้าที่ประธานาธิบดีของโอบามาถือเป็นปีที่คะแนนความนิยมต่างขั้วมากที่สุดในอันดับ 4 ของประวัติรบันทึกของแกลลัพ ซึ่งย้อนไปตั้งแต่สมัยประธานาธิบดีของดไวต์ ไอเซนฮาวร์ ขณะเดียวกัน ในช่วงที่โอบามาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีทั้ง 5 ปีนั้น ก็ติดอยู่ใน 10 อันดับปีที่คะแนนความนิยมต่างขั้วมากที่สุด
โอบามามีแนวโน้มว่า จะติดอันดับประธานาธิบดีที่มีคะแนนความนิยมที่แตกต่างกันมากที่สุดในบรรดาประธานาธิบดีคนใดๆ โดยส่วนต่างคะแนนความนิยมในการเป็นประธานาธิบดีของโอบามาเฉลี่ยอยู่ที่ 69% สูงกว่าจอร์จ ดับเบิ้ลยู บุช ประธานาธิบดีคนก่อน 8% สำนักข่าวซินหัวรายงาน