แถลงการณ์กระทรวงการคลังสหรัฐระบุว่า สหรัฐจะอายัดทรัพย์ของผู้หลบเลี่ยงมาตรการคว่ำบาตรดังกล่าวภายใต้อำนาจเขตศาลสหรัฐและจะห้ามไม่ให้พลเมืองสหรัฐทำธุรกรรมกับบริษัทและบุคคลเหล่านั้น
สำหรับบริษัทและบุคคลที่ตกเป็นเป้าหมายนั้นกระจายอยู่ทั่วโลก โดยดำเนินกิจการอยู่ในตุรกี สเปน เยอรมนี จอร์เจีย อัฟกานิสถาน อิหร่าน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และลิกเตนสไตน์
ความเคลื่อนไหวครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 2 ที่สหรัฐพุ่งเป้าไปยังผู้ที่ละเมิดมาตรการคว่ำบาตรอิหร่าน นับตั้งแต่ชาติมหาอำนาจบรรลุข้อตกลงเฉพาะกาลกับอิหร่านว่าด้วยโครงการนิวเคลียร์เมื่อเดือนพ.ย.
ภายใต้ข้อตกลงระยะ 6 เดือนดังกล่าว ซึ่งเริ่มนับตั้งแต่วันที่ 20 ม.ค.นั้น อิหร่านตกลงจะระงับกิจกรรมนิวเคลียร์บางส่วนเพื่อแลกกับการผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรจากชาติมหาอำนาจในวงจำกัด อย่างไรก็ตาม สหรัฐเตือนว่านี่ไม่ได้หมายความว่าอิหร่านจะเปิดกว้างเรื่องการทำธุรกิจได้เพราะข้อตกลงนี้
แถลงการณ์ระบุว่า ความเคลื่อนไหวของสหรัฐ "สะท้อนความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องของสหรัฐที่จะดำเนินหน้าบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรที่มีอยู่ต่อไป"
"สหรัฐแสดงความชัดเจนว่า มาตรการคว่ำบาตรส่วนมากเกือบทั้งหมดยังคงมีผลและจะยังคงบังคับใช้อย่างจริงจังต่อไป" นายเดวิด โคเฮน รมช.คลังสหรัฐ ฝ่ายข่าวกรองทางการเงินและการก่อการร้าย ระบุ สำนักข่าวซินหัวรายงาน