แคทเธอรีน แอชตัน หัวหน้านโยบายต่างประเทศของอียู ได้เรียกร้องให้ประธานาธิบดีวิคเตอร์ ยานูโควิช และผู้นำฝ่ายค้านให้หันหน้าเจรจากัน ภายหลังจากที่อียูเป็นห่วงเกี่ยวกับเหตุการณ์รุนแรง และการละเมิดสิทะธิมนุษยชน โดยอียูได้ประสานงานอย่างใกล้ชิดกับผู้นำในสังคมฝั่งพลเรือนในยูเครน เพื่อยุติการประท้วง
ทั้งนี้ ยูเครนได้รับผลกระทบจากวิกฤตที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 21 พ.ย. ซึ่งเป็นช่วงที่ประธานาธิบดียูเครนปัดข้อเสนอในการสานสัมพันธ์กับอียูเกี่ยวกับข้อตกลงวงเงิน 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์กับรัสเซีย ขณะที่ผู้นำฝ่ายต่อต้านรัฐบาลยังไม่สามารถผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญ เพื่อที่จะลดอำนาจของประธานาธิบดีไปจนถึงนายกรัฐมนตรีได้ โดยฝ่ายต่อต้านชี้ว่า ประธานาธิบดีใช้อำนาจในทางที่ผิด และทำให้ยูเครนเข้าสู่ภาวะที่จะผิดนัดชำระหนี้