"เนื่องด้วยสถานการณ์ที่ย่ำแย่ลง อียูจึงเล็งเห็นถึงความเร่งด่วนในการใช้มาตรการคว่ำบาตร ซึ่งประกอบด้วย การอายัดทรัพย์และระงับวีซ่าของผู้ที่ละเมิดสิทธิของมนุษยชน สร้างความรุนแรง และใช้กำลังเกินควร" แถลงการณ์รัฐมนตรีต่างประเทศอียูระบุ
เดิมทีอียูไม่ได้ต้องการออกมาตรการคว่ำบาตรยูเครน เนื่องจากมุ่งเน้นการทำหน้าที่เป็นคนกลางระหว่างรัฐบาลและกลุ่มผู้ประท้วง แต่อียูตัดสินใจเปลี่ยนท่าทีเนื่องจากเหตุการปะทะครั้งใหม่ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก สำนักข่าวเกียวโดรายงาน