บารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐ ได้หารือถึงสถานการณ์ในยูเครนทางโทรศัพท์ร่วมกับนายเดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ เช่นเดียวกับนายบรอนิสลาฟ คอมอรอฟสกี ประธานาธิบดีโปแลนด์ และนางแองเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี
"บรรดาผู้นำได้แสดงความวิตกเป็นอย่างมากต่อการกระทำของรัสเซีย อันเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนอย่างเห็นได้ชัดต่ออำนาจอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนยูเครน ซึ่งเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายระหว่างประเทศ อีกทั้งเป็นภัยคุกคามต่อสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ" ทำเนียบขาวรายงาน "บรรดาผู้นำต่างเรียกร้องให้ยูเครนและรัสเซียเปิดการเจรจาหารือทันที โดยนานาชาติพร้อมยื่นมือให้ความช่วยเหลือตามความเหมาะสม"
ปธน.โอบามาได้ส่งนายจอห์น แคร์รี่ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ไปยังกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครนในวันอังคารนี้
เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา นายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ได้รับการอนุมัติจากสภารัสเซีย เพื่อส่งกำลังทหารเข้าไปในยูเครนในการปกป้องผลประโยชน์ของประเทศ
ระหว่างการพูดคุยทางโทรศัพท์เมื่อวานนี้ร่วมกับนายโอบามา ปธน.ปูตินชี้ว่า รัสเซียมีสิทธิในการปกป้องผลประโยชน์ของประเทศและชาวรัสเซียที่อาศัยอยู่ในยูเครน หากเหตุความรุนแรงได้ขยายตัวในภูมิภาคตะวันออกของยูเครน และเขตปกครองตนเองไครเมียทางตอนใต้ของยูเครน
สำนักข่าว Interfax รายงานคำพูดของนายปูตินโดยชี้ถึง "ภัยคุกคามแท้จริง" ต่อชีวิตและสุขภาพและประชาชนรัสเซียและผู้ที่พูดภาษารัสเซียซึ่งอาศัยอยู่ในยูเครน โดยนายปูตินเผยว่าเขาจะใช้กำลังทหารหากเกิด "การปลุกปั่นหรือภัยอาชญากรรมจากฝ่าย ultra-nationalistic ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานต่างๆในยูเครน" สำนักข่าวซินหัวรายงาน