ปธน.สหรัฐกล่าว พร้อมยอมรับความสัมพันธ์ทางประวัติศาสตร์และการค้าที่ "แข็งแกร่ง" ระหว่างรัสเซียและยูเครนว่า "สิ่งที่เราไม่สามารถยอมรับได้ คือการที่รัสเซียได้ส่งกำลังทหารไปยังพื้นที่ และฝ่าฝืนข้อปฏิบัติพื้นฐานอันเป็นที่รับรู้กันทั่วโลกโดยไม่ได้รับการลงโทษใดๆ"
เขากล่าวกับสื่อมวลชนที่ทำเนียบขาว ก่อนที่จะเข้าร่วมหารือกับนายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอลว่า "ผมเชื่อว่าเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงจากนานาประเทศ บ่งชี้ถึงระดับความรุนแรงของความผิดที่รัสเซียได้กระทำขึ้น"
นายโอบามาชี้ว่า ทางรัฐบาลสหรัฐกำลังพิจารณา "ขั้นตอนทั้งหมด" ทั้งในด้านเศรษฐกิจและการทูต "ซึ่งจะโดดเดี่ยวรัสเซียออกจากประชาคมโลกและส่งผลด้านลบต่อเศรษฐกิจและสถานภาพของรัสเซียในเวทีโลก"
นอกจากนี้ เขายังแนะให้มีการส่งคณะผู้ดูแลนานาชาติไปยังยูเครน หรือจัดหาตัวกลางในการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทระหว่างประเทศ เพื่อตอบรับกับข้อเรียกร้องจากรัสเซียเพื่อดูแลผู้ที่พูดภาษารัสเซียและประชาชนรัสเซียที่อยู่ในยูเครน
ทั้งนี้ เขตปกครองตนเองไครเมียอยู่ใต้กำลังทหารรัสเซีย หลังจากที่นายวิคเตอร์ ยานูโควิช ประธานาธิบดียูเครนที่สนับสนุนรัสเซียได้ถูกถอดถอนออกจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 22 ก.พ. โดยรัฐสภาซึ่งนำโดยพรรคฝ่ายค้าน ที่ต้องการรวมกลุ่มกับสหภาพยุโรปมากกว่าสานต่อความสัมพันธ์กับรัสเซีย สำนักข่าวซินหัวรายงาน