นายเจย์ คาร์นีย์ โฆษกทำเนียบขาวเปิดเผยเรื่องดังกล่าวหลังจากนายจอห์น แคร์รี่ รมว.ต่างประเทศสหรัฐได้หารือร่วมกับนายเซอร์กี ลาฟรอฟ รมว.ต่างประเทศรัสเซียเป็นเวลานานกว่า 6 ชั่วโมงที่กรุงลอนดอน แต่ทั้งสองฝ่ายยังไม่สามารถหาทางคลี่คลายความตึงเครียดในยูเครน
ทั้งนี้ นายลาฟรอฟ กล่าวกับผู้สื่อข่าวภายหลังการประชุมว่า "รัสเซียจะเคารพการตัดสินใจของประชาชนชาวไครเมียที่จะลงประชามติ และเรายังไม่สามารถหาแนวทางในการคลี่คลายวิกฤตการณ์ในยูเครน" ขณะที่นายแคร์รี่เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า นายลาฟรอฟได้ส่งสัญญาณอย่างชัดเจนว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ไม่มีแผนที่จะตัดสินใจใดๆในเรื่องการคลี่คลายสถานการณ์ในยูเครน จนกว่าการลงประชามติในวันอาทิตย์นี้จะสิ้นสุดลง
นอกจากนี้ นายแคร์รี่ยังได้แสดงความวิตกกังวลอย่างมาก ต่อกรณีที่รัสเซียส่งกองกำลังทหารจำนวนมากเข้าไปประจำการในไครเมียและพื้นที่ชายแดนฝั่งตะวันออกของยูเครน
เขตปกครองตนเองไครเมียจะจัดให้มีการลงประชามติในวันอาทิตย์ที่ 16 มี.ค.นี้ เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนในไครเมียได้มีทางเลือกที่จะตัดสินใจว่า จะยังคงเป็นเขตปกครองตนเองในยูเครนต่อไป หรือจะยกดินแดนเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของสหพันธรัฐรัสเซีย
ด้านสหรัฐและประเทศพันธมิตรได้ออกมาโจมตีการลงประชามติดังกล่าวว่าเป็นการกระทำที่ละเมิดกฎหมายสากลและรัฐธรรมนูญของยูเครน แต่ประธานาธิบดีปูตินได้ยืนกรานต่อนายบัน คี-มูน เลขาธิการสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ว่าการลงประชามติของยูเครนเป็นไปตามกฎเกณฑ์ของยูเอ็นและหลักการของกฎหมายสากล สำนักข่าวซินหัวรายงาน