ที่ผ่านมา สมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ มีมติไม่เห็นด้วยกับการผนวกไครเมียเข้าสู่รัสเซีย โดยรัสเซียระบุว่า "เครื่องมือที่นำไปใช้ปล่อยข่าวแนวโน้มการยกระดับเป็นสงครามเย็นนั้น" ถูกยกขึ้นมา เพื่อปกปิด "วิกฤติทางการเมืองอันล้ำลึกในยูเครน" และยังใช้ประเด็นดังกล่าวประณามรัสเซียที่ได้ยกระดับความตึงเครียดในยูเครน
กระทรวงต่างประเทศเปิดเผยว่า "ความแตกต่างในวงกว้างเรื่องจุดยืนของสมาชิก UN โดยมีจำนวนผู้งดออกเสียงหรือไม่เข้าร่วมการลงมติเป็นจำนวนมากนั้น ถือเป็นหลักฐานที่บ่งชี้ว่าการตีความเหตุการณ์ต่างๆในยูเครนเพียงข้างเดียวเป็นสิ่งที่ไม่สามารถยอมรับได้"
เมื่อวานนี้ สมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติได้อนุมัติให้มีการออกมติ เพื่อเรียกร้องให้ผลการทำประชามติไครเมียเพื่อแยกดินแดนออกจากไครเมียนั้นเป็นโมฆะ โดยประเทศสมาชิกได้ลงคะแนนเสียงสนับสนุนในสัดส่วน 100 ต่อ 11 และมี 58 ประเทศที่งดออกเสียง
ทั้งนี้ การกดดันของรัสเซีย อีกทั้งการแบล็คเมลทางการเมืองและการข่มขู่ทางเศรษฐกิจ ถูกนำไปใช้เพื่อบังคับให้สมาชิก UN ออกเสียงสนับสนุนมติดังกล่าว สำนักข่าวซินหัวรายงาน