“เนื่องด้วยสนธิสัญญาที่มีการลงนามระหว่างรัสเซียและสาธารณรัฐไครเมียเมื่อวันที่ 18 มี.ค.2557 ที่เกี่ยวกับการผนวกไครเมียเข้าเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียนั้น ประเด็นข้อตกลงระหว่างรัสเซีย-ยูเครนจึงถือเป็นโมฆะ อันเนื่องมาจากการสิ้นสุดสัญญาเช่าตามกฎหมายที่รัสเซียเช่าพื้นที่ฐานทัพเรือในยูเครน" State Duma หรือสภาผู้แทนราษฎรรัสเซีย ระบุในแถลงการณ์ฉบับหนึ่ง
ภายใต้ข้อตกลง “ให้เช่าพื้นที่ฐานทัพเพื่อแลกกับการซื้อก๊าซราคาถูก" ดังกล่าวที่มีการลงนามกันเมื่อเดือนเม.ย.2553 นั้น รัสเซียตกลงที่จะลดราคาก๊าซ 30% ให้แก่ยูเครน เพื่อแลกกับการขยายสัญญาเช่าพื้นที่ฐานทัพเรือในเมืองเซวาสโตโปล ออกไปอีก 25 ปี
ทั้งนี้ สภาดูมามีมติเป็นเอกฉันท์ในการยุติข้อตกลง 3 ฉบับที่ลงนามเมื่อปี 2540 และอีก 1 ฉบับที่ลงนามในปี 2553 โดยอ้างถึงอนุสัญญาเวียนนาปี 2512 ซึ่งให้รัสเซียมีสิทธิที่จะยกเลิกข้อตกลงระหว่างประเทศ
ทั้งนี้ สถานภาพของกองเรือรบ Black Sea Fleet จะอยู่ภายใต้กฎหมายของรัสเซียนับแต่นี้เป็นต้นไป ขณะที่ฐานทัพเรือเซวาสโตโปลได้กลายเป็นดินแดนของรัสเซีย แม้ว่าชาติมหาอำนาจตะวันตกจะไม่ยอมรับก็ตาม
นายกริกอรี คาราซิน รมช.ต่างประเทศรัสเซีย กล่าวว่า รัสเซียจะหารือประเด็นทางกฎหมายและการเงิน ซึ่งเป็นผลจากการยกเลิกข้อตกลงดังกล่าว กับหน่วยงานที่ชอบด้วยกฎหมายในอนาคตของยูเครนเท่านั้น