การเลือกตั้งครั้งนี้มีผู้ลงสมัครชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีทั้งหมด 18 คน แต่ "คู่ท้าชิง" ที่สำคัญมีเพียง 2 คน คือนายเปโตร โปโรเชนโก และนางยูเลีย ทีโมเชนโก อดีตนายกรัฐมนตรี
การเลือกตั้งประธานาธิบดียูเครนครั้งล่าสุดนี้ เป็นการเลือกผู้มาดำรงตำแหน่งสืบต่อจากอดีตประธานาธิบดีวิคเตอร์ ยานูโควิช และมีขึ้นท่ามกลางความขัดแย้งขั้นรุนแรงโดยกลุ่มชาวยูเครนนิยมรัสเซียที่พยายามจะแบ่งแยกดินแดนทางภาคตะวันออก โดยเฉพาะที่เมืองโดเนสก์ และลูฮานสก์ ซึ่งประชาชนเกือบ 90% ได้ลงประชามติเพื่อแสดงความต้องการที่จะแยกตัวเป็นอิสระจากยูเครน จึงทำให้การเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งนี้ มีชาวเมืองลูฮานสก์และโดเนสก์ไม่มาหย่อนบัตรเลือกตั้งเป็นจำนวนมาก
แต่ถึงกระนั้นก็ตาม ในช่วงเช้าวันที่ 26 พ.ค.ตามเวลาไทย ผลการสำรวจความคิดเห็นผู้ไปใช้สิทธิหน้าคูหาเลือกตั้ง หรือเอ็กซิทโพลล์ ชี้ว่า นายโปโรเชนโก ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งเหนือนางทีโมเชนโกแบบชนิดขาดลอย จึงทำให้ยูเครนไม่จำเป็นต้องจัดการเลือกตั้งรอบชิงดำ
ในช่วงแรกนั้น มีผู้วิเคราะห์ว่านางยูเลีย ทีโมเชนโก คงได้นั่งแท่นประธานาธิบดีคนใหม่อย่างแน่นอน ด้วยความที่เธอเป็นศูนย์รวมใจคนจำนวนมากจากการเป็นผู้นำการปฏิวัติสีส้ม อีกทั้งยังได้รับความเห็นใจมากขึ้นเพราะติดคุกในข้อหาใช้อำนาจโดยมิชอบและคอร์รัปชั่นในสมัยอดีตประธานาธิบดีวิกเตอร์ ยานุโควิช ซึ่งผู้สนับสนุนมองว่าถูกใส่ร้าย กระทั่งพลังประชาชนได้ลุกฮือขับไล่รัฐบาลนายยานูโควิชออกจากตำแหน่ง และทำให้นางทีโมเชงโกได้รับอิสรภาพอีกครั้ง
- รู้จัก เปโตร โปโรเชนโก หนุ่มใหญ่ หัวใจชาตินิยม
ผลการเลือกตั้งสะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนว่า ประชาชนชาวยูเครนส่วนใหญ่ต้องการทางเลือกใหม่ และต้องการผู้นำที่เก่งด้านบริหารจัดการแบบนักธุรกิจ โดยประชาชนจำนวนหนึ่งได้ให้ความเห็นต่อหนังสือพิมพ์ฮัฟฟิงตัน โพสต์ ว่า ความสวยไม่ใช่ทุกสิ่ง และนางทีโมเชนโกก็ติดภาพลักษณ์นักการเมืองคอร์รัปชั่นไปแล้ว ขณะที่นายโปโรเชงโกเป็นคนฉลาดหลักแหลม เป็นนักธุรกิจที่พูดจานุ่มนวลและมีความประนีประนอม พูดภาษาอังกฤษคล่องแคล่ว สามารถสร้างอาณาจักรธุรกิจช็อคโกแลตจนประสบความสำเร็จแม้ในช่วงที่เศรษฐกิจยูเครนเผชิญภาวะตกต่ำหลังสหภาพโซเวียตล่มสลาย
หลายคนตั้งคำถามว่า เปโตร โปโรเชนโก คือใคร และมีดีอะไรจึงสามารถโค่นเอาชนะแชมป์เก่าอย่างสาวสวย ยูเลีย ทีโมเชนโก จนได้รับความไว้วางใจจากประชาชนชาวยูเครนในช่วงที่บ้านเมืองลุกเป็นไฟเช่นนี้
โปโรเชนโก หนุ่มใหญ่ วัย 48 ปี เกิดเมื่อวันที่ 26 ก.ย. 1965 ที่เมืองโอเดสซา โอบลาส ก่อนที่จะย้ายไปอาศัยอยู่ในเมืองวินนิทเซีย ทางตอนกลางของยูเครน เขาสำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเคียฟ สาขาเศรษฐศาสตร์ สร้างฐานะด้วยมันสมองและสองมือ จนกลายเป็นนักธุรกิจผู้โด่งดัง เป็นเจ้าของโรงงานผลิตขนมหวานและช็อคโกแลตชื่อดังระดับโลกอย่าง "โรเชน" ด้วยกำลังการผลิตที่สูงถึง 450,000 ตันต่อปี จนได้รับฉายาว่า "ราชาช็อคโกแลต"
โปโรเชนโก แต่งงานกับมารีนา โปโรเชนโก มีบุตรด้วยกัน 4 คน เขาไม่เพียงแต่เป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จเท่านั้น แต่เคยดำรงตำแหน่งที่สำคัญทางการเมืองมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นรัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจสมัยประธานาธิบดีวิคเตอร์ ยานุโควิช อีกทั้งยังเคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศและประธานธนาคารกลางยูเครนสมัยประธานาธิบดีวิคเตอร์ ยุชเชงโก
การถือกำเนิดและใช้ชีวิตในยูเครนมาโดยตลอด ทำให้ชีวิตของโปโรเชนโกหยั่งรากลึกในความเป็นชาตินิยมและมีความสนิทสนมแน่นแฟ้นกับฝั่งยุโรป นอกจากนี้ เขายังได้ชื่อว่าเป็น 1 ใน 10 บุคคลร่ำรวยที่สุดของยูเครน มีทรัพย์สินรวมราว 1,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ทั้งนี้ ไม่ใช่เพียงเพราะการสร้างเนื้อสร้างตัวเองจนร่ำรวยที่ทำให้โปโรเชนโกได้รับความนิยมชื่นชมจากชาวยูเครน แต่เพราะเขาเป็นคนกล้าที่จะประกาศจุดยืนของตัวเองในหลายเรื่อง ตัวอย่างเช่น เขากล้าประกาศแก้ไขสถานการณ์วุ่นวายในพื้นที่ภาคตะวันออกให้คลี่คลายลงภายใน 3 เดือน นอกจากนี้ โปโรเชนโกยังได้รับการยอมรับว่าเป็นนักการเมืองยูเครนคนเดียวที่เดินทางเข้าแคว้นไครเมีย เพื่อเจรจากับฝ่ายสนับสนุนรัสเซียในกรณีบุกยึดอาคารรัฐสภาท้องถิ่น พร้อมกับประกาศความพร้อมที่จะเจรจากับผู้นำรัสเซีย และยังลุกขึ้นกล่าวปราศัยต่อหน้าผู้คนว่า ถึงเวลาแล้วที่ยุคของนักการเมืองพูดโกหกประชาชนจะต้องหมดไป
- ประชาคมโลกขานรับชัยชนะของอัศวินขี่ม้าขาว เปโตร โปโรเชนโก
ทันทีที่ผลเอ็กซิทโพลล์ชี้ชัดว่า เปโตร โปโรเชนโก ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดียูเครน ผู้นำของบรรดาประเทศที่ค่อนไปในทางต่อต้านรัสเซีย เช่นสหรัฐและประเทศฝั่งยุโรป ต่างก็ออกมาแสดงความยินดีกันถ้วนหน้า รวมถึงประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐ นายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคล แห่งเยอรมนี และนายชินโสะ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น
แมร์เคล หญิงเหล็กแห่งเยอรมนีกล่าวว่า ผลการเลือกตั้งครั้งนี้แสดงให้เห็นว่าชาวยูเครนต้องการความเป็นเอกภาพ ประชาธิปไตย และสันติสุข พร้อมกับแสดงความชื่นชมชาวยูเครนในเขตยึดครองของฝ่ายกบฏที่ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งด้วย
ส่วนตัวของนายโปโรเชนโกเองนั้น ได้ประกาศชัยชนะหลังจากผลเอ็กซิทโพลล์ออกมาได้ไม่นานว่า หนึ่งในภารกิจที่เขาต้องเร่งลงมือทำเป็นอันดับแรกคือการยุติสงครามและนำสันติสุขกลับคืนมาสู่ประเทศยูเครน หลังยูเครนเผชิญกับกับกระแสแบ่งแยกดินแดนมานานกว่าครึ่งปี อันเนื่องมากจากการประท้วงขับไล่ประธานาธิบดีวิคเตอร์ ยานูโควิช ซึ่งมีแนวคิดทางการเมืองฝักใฝ่รัสเซีย
กล่าวกันว่า ไม่ว่าใครก็ตามที่ก้าวขึ้นมานั่งเก้าอี้ประธานาธิบดียูเครนในยามนี้ ย่อมหนีไม่พ้นการรับเผือกร้อนจากผู้นำคนก่อนๆ อีกทั้งยังต้องสะสางปัญหาต่างๆอีกมากมาย เพราะยูเครนยังอยู่ในห้วงวิกฤติหลายด้าน รวมทั้งความพยายามในการแบ่งแยกดินแดน ภาวะไร้เสถียรภาพทางการเมือง เศรษฐกิจตกต่ำ หนี้สินมากมาย และยังต้องดำเนินนโยบายปฏิรูปประเทศภายใต้กฎข้อบังคับของเจ้าหนี้เงินกู้อย่างไอเอ็มเอฟอีกด้วย ... ไม่ว่าผู้นำคนใหม่ของยูเครนจะให้คำมั่นสัญญาหนักแน่นเช่นไร และไม่ว่าเขาจะได้รับการยอมรับในฐานะใดก็ตาม กาลเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจนว่า "เปโตร โปโรเชนโก" สามารถนำความหวังและพลิกฟื้นยูเครนได้จริงหรือไม่ เพราะเส้นทางการเมืองนับจากนี้ ย่อมไม่หอมหวานเหมือนช็อคโกแลตอย่างแน่นอน