นายหม่า อิงจิว ระบุว่า "ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าหน่วยงานต่างๆในจีนจะสำนึกผิดกับเหตุการณ์ดังกล่าว (การปราบปรามที่จตุรัสเทียนอันเหมิน) อย่างจริงใจตามวิถีทางสังคมโดยเร็ว และย้ำให้แน่ใจว่าเหตุการณ์ร้ายแรงเช่นนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก"
นับตั้งแต่นายหม่า อิงจิว ได้รับเลือกให้เป็นผู้นำไต้หวันครั้งแรกเมื่อปี 2551 เขาจะออกแถลงการณ์ทุกๆวันที่ 4 มิถุนายนมาตลอด เพื่อระลึกถึงวันครบรอบการประท้วงที่นำโดยนักศึกษาในปี 2532 และเหตุสังหารหมู่ในเวลาต่อมา ซึ่งเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บหลายร้อยคน หรืออาจนับพันคนก็เป็นได้
อย่างไรก็ตาม นี่เป็นครั้งแรกที่นายหม่า อิงจิว เรียกร้องให้จีนออกมาแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ดังกล่าว
นอกจากนี้ นายหม่า อิงจิ่วยังกล่าวอีกว่า "ผมเชื่อเหลือเกินว่า ทุกวันนี้ จีนแผ่นดินใหญ่มีโอกาสที่ดีที่สุดสำหรับการปฏิรูปแบบประชาธิปไตยให้แล้วเสร็จ"
ผู้นำไต้หวันกล่าวอีกว่า เนื่องจากตอนนี้ จีนมีความมั่งคั่งมากขึ้น และระดับการศึกษาก็สูงขึ้น "จึงเห็นได้ชัดว่าจีนมีคุณสมบัติที่จะสร้างสิ่งแวดล้อมที่ประชาชนมีอิสระในการพูด และการพิจารณาคดีอย่างยุติธรรม รวมถึงรัฐบาลที่ปกป้องสิทธิมนุษยชน"
สุดท้าย ผู้นำไต้หวันเรียกร้องให้จีนปฏิบัติกับฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยด้วยความสุภาพ ซึ่งไม่เพียงแต่จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับความชอบธรรมของพรรคคอมมิวนิสต์จีน และความสามารถในการปกครองเท่านั้น แต่ยัง "เป็นการส่งสารชัดเจนแก่ไต้หวันว่า จีนจริงจังกับการปฏิรูปประชาธิปไตยจริงๆ"