"ผมจะไม่ปฏิเสธใดๆเลย เพราะเรามีส่วนทำให้เกิดความแน่ใจว่า กลุ่มญิฮาดจะไม่ปักหลักถาวรไม่ว่าในอิรักหรือซีเรียในประเด็นเดียวกันนี้" ปธน.โอบามาเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบขาวภายหลังเขาพบกับนายกรัฐมนตรีโทนี แอ็บบอตต์ของออสเตรเลีย
"นี่คือด้านที่เรากำลังจับตาด้วยความกังวลอย่างยิ่งไม่ใช่เพียงแค่วันสองวันที่ผ่านมาเท่านั้น แต่ผ่านมาหลายเดือนแล้ว และเรากำลังหารืออย่างใกล้ชิดกับรัฐบาลอิรัก" ปธน.โอบามาเสริม
ทั้งนี้ กลุ่มหัวรุนแรงของรัฐอิสลามแห่งอิรักและเลแวนท์ (ISIL) หรือที่รู้จักกันในชื่ออัลกออิดะฮ์ในอิรักได้บุกยึดเมืองใหญ่ต่างๆทางตอนเหนือของอิรัก รวมถึงเมืองโมซูล เมืองใหญ่สุดอันดับ 2 ของอิรัก และเมืองทิกริตอันเป็นบ้านเกิดของนายซัดดัม ฮุสเซน อดีตประธานาธิบดีอิรัก
กลุ่มหัวรุนแรงดังกล่าวได้ประกาศเดินหน้าไปยังกรุงแบกแดด ขณะที่มีรายงานว่านายนูรี อัล-มาลิกี นายกรัฐมนตรีอิรัก ได้เรียกร้องให้รัฐบาลสหรัฐสนับสนุนด้านการโจมตีทางอากาศต่อกลุ่มหัวรุนแรงที่บุกยึดพื้นที่ต่างๆในประเทศ
สหรัฐได้เร่งการขนส่งอาวุธและกระสุนไปยังกรุงแบกแดด รวมถึงเฮลิคอปเตอร์อาปาเช่ ขีปนาวุธเฮลไฟร์ และเครื่องบินขับไล่ F-16 ตลอดจนเดินหน้าฝึกอบรมกองกำลังความมั่นคงของอิรักเมื่อต้นปีนี้ หลังจากที่กลุ่ม ISIL และผู้ก่อการกบฏกลุ่มอื่นๆ ได้บุกยึดเมืองฟัลลูจาห์และเมืองรามาดีบางส่วน ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ในจังหวัดอันบาร์ทางตะวันตกของประเทศ
"สิ่งที่เราเห็นในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาบ่งชี้ถึงระดับความช่วยเหลือที่อิรักต้องการเพิ่มเติม" ปธน.โอบามากล่าว โดยระบุว่า "ทีมของผมจึงทำงานตลอดเวลาเพื่อหาวิธีจัดสรรความช่วยเหลือที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดสำหรับพวกเขา"
"ผมคิดว่า เป็นการดีที่เราพูดได้ว่า เราหารือกับชาวอิรักว่าจะมีการจัดการทางทหารในระยะใกล้ และทีมความมั่นคงแห่งชาติของเรากำลังพิจารณาทุกทางเลือก" ผู้นำสหรัฐกล่าว สำนักข่าวซินหัวรายงาน