โอบามายังกล่าวอีกว่า สหรัฐพร้อมดำเนินการทางการทหารที่ "กำหนดเป้าหมายไว้แล้ว" และ "แน่นอน" หากตัดสินใจว่าปฏิบัติการภาคพื้นดินเป็นสิ่งจำเป็น ขณะที่เน้นว่ากองทัพอเมริกันจะไม่กลับเข้าไปร่วมการสู้รบในอิรัก
ปธน.สหรัฐเปิดเผยในการแถลงข่าวที่ทำเนียบขาวว่า ในกรณีของการโจมตีทางการทหาร การตอบโต้กลุ่มหัวรุนแรงที่ "ดีและมีประสิทธิภาพที่สุด" จะเกี่ยวพันกับความร่วมมือที่กองทัพอิรักเป็นผู้นำปฏิบัติการ
"เราไม่มีความสามารถในการแก้ไขปัญหานี้เพียงแค่ส่งกองทหารหลายหมื่นคนเข้าไป และพัวพันกับการต่อสู้ที่เกี่ยวกับชีวิตและเงินตราในอิรัก" โอบามากล่าวหลังจากพบปะกับทีมความมั่นคงแห่งชาติ "ในที่สุดแล้ว นี่คือบางสิ่งที่ชาวอิรักจะต้องเป็นผู้แก้ไข"
กลุ่มหัวรุนแรงของรัฐอิสลามในอิรักและรัฐเลแวนต์ รุกคืบเข้ามาในอิรักและกำลังคุกคามกรุงแบกแดด เมืองหลวงของประเทศ หลังเข้ายึดเมืองโมซูล และเมืองไทกรีต เมืองสำคัญ 2 เมืองในอิรักเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา
เมื่อวานนี้ โอบามาได้กระตุ้นให้ผู้นำกลุ่มต่างๆ ของอิรัก "วางตัวเหนือความแตกต่าง และเข้ามาร่วมกันวางแผนการทางการเมืองเพื่ออนาคตของอิรัก" และเสริมว่า "เห็นได้ชัดว่า มีเพียงผู้นำที่สามารถจัดการกับประเด็นทั้งหลายได้เท่านั้น ที่จะรวบรวมประชาชนชาวอิรักไว้ด้วยกันอย่างแท้จริง และช่วยให้พวกเขาผ่านวิกฤตนี้ไปได้"
แต่ปธน.สหรัฐได้หยุดการเรียกร้องในเรื่องการลาออกของนายนูรี อัล-มาลิกี นายกรัฐมนตรีอิรัก โดยกล่าวว่า "นี่ไม่ใช่ที่ของสหรัฐในการเลือกผู้นำของอิรัก"
นอกจากนี้ โอบามาเปิดเผยว่า นายจอห์น แคร์รี่ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศสหรัฐจะออกเดินทางในช่วงสุดสัปดาห์นี้ เพื่อไปประชุมในตะวันออกกลางและในยุโรป เพิ่อหารือกับพันธมิตรของสหรัฐถึงสถานการณ์ในอิรัก สำนักข่าวซินหัวรายงาน