แถลงการณ์จากโฆษกของนายบันระบุว่า "ท่านเลขาธิการสหประชาชาติมีความกังวลต่อวิกฤตในอิรักที่ทวีความตึงเครียดยิ่งขึ้น และพลเมืองผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บที่มีจำนวนเพิ่มขึ้น และชาวอิรักมากกว่า 1 ล้านคน ซึ่งต้องอพยพย้ายที่อยู่เนื่องจากการสู้รบ ทั้งนี้ เลขาธิการยังเรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่มีส่วนในความขัดแย้ง รับรองว่าการข่มเหงพลเมืองอื่นๆ เนื่องจากศาสนาและภูมิหลังทางชาติพันธุ์ของคนเหล่านั้น จะยุติลงในทันที"
ยูเอ็นเปิดเผยแถลงการณ์ดังกล่าว หลังประชาชนชาวอิรักจำนวนหลายแสนคนต้องอพยพย้ายที่อยู่ เนื่องจากกลุ่มมุสลิมหัวรุนแรงได้ทำการโจมตีไปทั่วอิรัก โดยชาวอิรักจำนวนมากกว่า 1 ล้านคน ต้องย้ายที่อยู่ในปีนี้ และกว่าครึ่งถูกผลักเข้าไปสู่สถานการณ์อันยากลำบากนี้ภายในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา
อิรักเผชิญสถานการณ์ที่บั่นทอนความมั่นคงนับตั้งแต่วันที่ 10 มิ.ย. เมื่อเกิดเหตุปะทะระหว่างกองกำลังความมั่นคงและกลุ่มมุสลิมหัวรุนแรงนิกายสุหนี่ ซึ่งเข้าควบคุมเมืองโมซูล เมืองใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ทางเหนือของประเทศ และหลังจากนั้น ได้ยึดครองเขตแดนต่างๆ โดยรอบ หลังจากที่กองกำลังความมั่นคงอิรักถอนกำลังออกจากตำแหน่งในเมืองนีนาเวห์ และจังหวัดอื่นๆ ที่นิกายสุหนี่มีอิทธิพล สำนักข่าวซินหัวรายงาน