แถลงการณ์ทำเนียบขาวระบุว่า ผู้นำทั้ง 2 ประเทศ ได้สนทนากันทางโทรศัพท์ และเห็นพ้องกันว่า "พวกเขายังคงต้องการให้มีการหยุดยิงแบบทวิภาคี ซึ่งได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากรัสเซีย และให้มีการคลี่คลายความขัดแย้งโดยสันติ ซึ่งรวมถึงการปล่อยตัวประกันทั้งหมดด้วย"
ประธานาธิบดีเปโตร โปโรเชนโกของสยูเครน ได้ยุติการหยุดยิงที่ดำเนินมาเป็นเวลา 10 วันเมื่อวันที่ 1 ก.ค.ในพื้นที่ทางตะวันออกของประเทศที่มีเหตุการณ์ไม่สงบ โดยได้กล่าวประณามกลุ่มกบฏที่ไม่ยินยอมปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิง
หลังจากนั้นกองกำลังทหารของยูเครนจึงเริ่มการโจมตีในเขตเมืองโดเนทสค์และลูกันสค์อีกครั้ง ด้วยการโจมตีกลุ่มกบฏทางอากาศ
ทั้งนี้ สถานการณ์ยังไม่คลี่คลาย หลังจากกลุ่มผู้แทนจากยูเครน รัสเซีย และองค์กรเพื่อความมั่นคงและความร่วมมือในภูมิภาคยุโรปได้ประชุมร่วมกันเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ขณะที่กองกำลังทหารของยูเครนได้ประกาศแผนการเมื่อวันจันทร์ที่จะโอบล้อมเมืองโดเนทสค์และลูกันสค์ ซึ่งเป็นเมืองเอกของภูมิภาคที่อยู่ภายใต้การควบคุมของกลุ่มกบฎ
เมื่อวานนี้ กระทรวงการต่างประเทศของรัสเซียได้ประณามทางการยูเครนในการโจมตีทางอากาศและภาคพื้นดินในเมืองโดเนทสค์, ลูกันสค์ และสลาเวียนสค์ ซึ่งเป็นเหตุให้พลเรือนเสียชีวิตหลายราย
ทำเนียบขาวเผยว่า ในระหว่างการหารือทางโทรศัพท์นั้น ปธน.โอบามาได้แสดงการสนับสนุนการเคลื่อนกำลังพลของทางการยูเครน "หากกลุ่มผู้สนับสนุนการแบ่งแยกไม่ปรารถนาที่จะเจรจาหรือปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิง"
ผู้นำทั้ง 2 เรียกร้องให้รัสเซียยุติ "การกระทำที่เป็นการสั่นคลอนความมั่นคง" อาทิ การอนุญาต, การอำนวยความสะดวกด้านการขนส่งอาวุธและนักรบข้ามพรมแดน รวมถึงการจัดตั้งกองกำลังทหารใกล้บริเวณชายแดน และยุติการสนับสนุนกลุ่มแบ่งแยกดินแดน
ทั้งนี้ รัสเซียไม่ได้ให้ความสนใจกับข้อกล่าวหาจากชาติตะวันตกที่ระบุว่ารัสเซียสนับสนุนอาวุธให้กลุ่มกบฏอย่าง "ไม่ละอายใจ"