"โศกนาฎกรรมในครั้งนี้สะท้อนให้เห็นว่าสถานการณ์ในยูเครนตะวันออกรุนแรงมากขึ้นเพียงใด และส่งผลกระทบต่อประเทศอื่นๆและครัวครัวของพลเรือนที่อยู่นอกพรมแดนของยูเครนมากเพียงใด" นายเฟลท์แมนกล่าว
นายเฟลท์แมนยังกล่าวเพิ่มเติมว่า แม้ว่าประเด็นด้านความมั่นคง การเมือง เศรษฐกิจ สังคม และสิทธิมนุษยชนในยูเครนเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องแก้ไข แต่ก็ยังคงมีความซับซ้อน และเขาคาดหวังว่าเหตุโศกนาฎกรรมเครื่องบินตกในครั้งนี้ จะเป็นตัวเร่งให้ทุกฝ่ายรีบดำเนินการคลี่คลายวิกฤตการณ์ในยูเครนอย่างจริงจัง
นอกจากนี้ นายเฟลท์กล่าวว่า หลังจากที่ประธานาธิบดีเปโตร โปโรเชงโก แห่งยูเครน ได้ประกาศยุติการหยุดยิงระยะเวลา 10 วันและบังคับใช้กฎหมายด้านความมั่นคงในพื้นที่ฝั่งตะวันออกของยูเครนั้น เหตุการณ์สู้รบระหว่างกองกำลังของรัฐบาลและกลุ่มติดอาวุธก็ทวีความรุนแรงมากขึ้น และส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก
ทั้งนี้ นายเฟลท์ได้เรียกร้องให้มีการหยุดยิงในพื้นที่ดังกล่าว และขอให้ทุกฝ่ายเร่งสร้างสันติภาพให้กลับคืนสู่ยูเครน พร้อมกับกล่าวว่า ยูเครนพร้อมที่จะให้ความร่วมมือ และในขณะนี้องค์การการบินระหว่างประเทศของยูเอ็นและองค์กรระหว่างประเทศ ได้เสนอให้ความช่วยเหลือยูเครน เพื่อเร่งตรวจสอบเรื่องการถูกยิงตกของเครื่องบินมาเลเซีย แอร์ไลน์