Roundup: ข้อพิพาทในยูเครนเป็นอุปสรรคต่อการตรวจสอบเหตุเครื่องบิน MH17 ตก

ข่าวการเมือง Monday July 28, 2014 16:41 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ความขัดแย้งที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นระหว่างกองกำลังรัฐบาลและกลุ่มแบ่งแยกดินแดนในพื้นที่ทางภาคตะวันออกของยูเครน ถือเป็นอุปสรรคต่อการสอบสวนหาเหตุการตกของเที่ยวบิน MH17 ของสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์

เนเธอร์แลนด์ ซึ่งมีประชาชนเสียชีวิต 194 รายจากเหตุดังกล่าว ได้ยกเลิกแผนส่งทหารเข้าไปตรวจสอบจุดที่เกิดเหตุเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา อันเนื่องมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับเรื่องความปลอดภัย

นายมาร์ค รุทท์ นายกรัฐมนตรีเนเธอร์แลนด์ กล่าวว่า “เราสรุปได้ว่า การมีกองกำลังทหารนานาชาติมาควบคุมพื้นที่บริเวณนี้อาจจะเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้"

ทั้งเนเธอร์แลนด์และออสเตรเลียต่างก็เลื่อนการส่งกองกำลังตำรวจที่ไม่ติดอาวุธเข้าไปยังพื้นที่ โดยแผนดังกล่าวเป็นแผนที่นายกรัฐมนตรีโทนี แอ็บบ็อต ของออสเตรเลียมองว่ามีความปลอดภัยมากที่สุดสำหรับการปฏิบัติหน้าที่

นายแอ็บบ็อตกล่าวว่า การใช้กำลังเจ้าหน้าที่ที่ไม่ติดอาวุธจะส่งผลให้รัฐสภายุเครนไม่ต้องอนุมัติและรับรองการปฏิบัติการเหมือนกับการส่งกองกำลังติดอาวุธเข้าไป

ทั้งนี้ นักวิจัยของเนเธอร์แลนด์จำนวน 63 ราย และสารวัตรทหารที่ไม่ติดอาวุธกำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ในเมืองโดเนทสค์ เพื่อค้นหาร่างผู้เสียชีวิตจากเหตุเครื่องบินตก

ด้านกองกำลังทหารของยุเครนได้เพิ่มการโจมตีพื้นที่ตามแนวชายแดนที่กองกำลังกบฏยึดครอง เพื่อยึดคืนพื้นที่ซึ่งเครื่องบิน MH17 ถูกยิงตก

ปัญหาความขัดแย้งเกิดขึ้นมาแล้วอย่างน้อยใน 5 พื้นที่และที่เมืองโดเนทสค์ ขณะที่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขกล่าวว่า มีประชาชนเสียชีวิตอย่างน้อย 13 รายในเมืองฮอร์ลิฟคา

อเล็กซานเดอร์ ฮัก รองประธานองค์กรความร่วมมือด้านความมั่นคงของยุโรปกล่าวว่า เจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบด้านการตรวจสอบจะไม่ลงพื้นที่ดังกล่าวในวันอาทิตย์

นายฮักให้สัมภาษณ์กับนักข่าวในโดเนทสค์ว่า “สถานการณ์ภาคพื้นดินดูเหมือนว่าจะไม่ปลอดภัย ดังนั้นเราจึงตัดสินใจจะส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปพรุ่งนี้เช้า การสู้รบในพื้นที่ดังกล่าวมีแนวโน้มว่า จะส่งผลกระทบต่อจุดที่เครื่องบินตก"

หลังเกิดเหตุมาแล้วเป็นเวลา 10 วัน มีเพียงผู้เชี่ยวชาญจากนานาชาติจำนวนไม่กี่รายเท่านั้นที่เข้าถึงสถานที่เกิดเหตุ

ในขณะเดียวกัน นายเซอร์ไก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศของรัสเซีย และนายจอห์น เคอร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐต่างก็เรียกร้องให้หยุดยิงในพื้นที่ทางตะวันออกของยูเครนในทันที

“เจ้าหน้าที่นโยบายต่างประเทศระดับสูงของรัสเซียและสหรัฐเห็นด้วยถึงเรื่องความสำคัญของการหยุดยิงในพื้นที่พิพาทในทันที รวมทั้งความสำคัญของการเริ่มจัดการเจรจาระหว่างฝ่ายขัดแย้งตามข้อตกลงเจนีวาซึ่งจัดทำขึ้นโดยรัสเซีย สหรัฐ และยูเครน เมื่อวันที่ 17 เม.ย." เขากล่าว

แต่อย่างไรก็ดี ทั้งสองฝ่ายต่างก็กล่าวหาซึ่งกันและกันว่าเป็นอุปสรรคที่ขัดขวางการสอบสวน โดยระบุว่า อีกฝ่ายเป็นสาเหตุของความรุนแรงที่ปะทุขึ้นในภาคตะวันออกของยูเครน

สหภาพยุโรป (อียู) บรรลุข้อตกลงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เรื่องการคว่ำบาตรเพิ่มเติมต่อชาวรัสเซียและยูเครนจำนวน 15 ราย และนิติบุคคลอีก 18 ราย ซึ่งถูกมองว่าดำเนินการอันเป็นปฏิปักษ์ต่ออธิปไตยเหนือดินแดนของยูเครน

ด้านรัสเซียได้ตอบโต้ด้วยการกล่าวหาอียูว่าขัดขวางความร่วมมือในระดับทวิภาคีด้วยการคว่ำบาตรต่อรัสเซีย

นายลาฟรอฟระบุในแถลงการณ์ว่า “รายการคว่ำบาตรรอบใหม่บ่งชี้โดยตรงว่าประเทศยุโรปได้เลือกใช้ทางเลือกที่แยกรัสเซียไม่ให้มีส่วนร่วมต่อความมั่นคงในส่วนที่เกี่ยวกับนานาชาติและในภูมิภาค"

เนเธอร์แลนด์กำลังดำเนินงานด้านการระบุอัตลักษณ์ของผู้เสียชีวิต โลงศพจำนวน 227 โลงได้ถูกส่งมาถึงยังเมืองฮิลเวอร์ซัมซึ่งเจ้าหน้าที่นิติเวชจะทำการพิสูจน์อัตลักษณ์ผู้เสียชีวิต โดยเครื่องบินโบอิ้ง 777 ที่ถูกยิงตกเมื่อวันที่ 17 ก.ค. มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 298 ราย สำนักข่าวซินหัวรายงาน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ