รายงานระบุว่า นายซารีฟหารือทางโทรศัพท์กับรมว.ต่างประเทศแอลจีเรีย จอร์แดน ปากีสถาน ซูดาน และโมร็อกโกเป็นรายบุคคลเมื่อวานนี้ โดยเขากล่าวว่า กลุ่มประเทศอิสลามและรัฐสมาชิกมุสลิมของกลุ่มประเทศไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดควรลงมือ "ปฏิบัติร่วมกัน" ในระดับนานาประเทศเพื่อกดดันอิสราเอลให้ยุติการปิดล้อมและโจมตีฉนวนกาซา
นายซารีฟระบุว่าต้องเพิ่มความพยายามในการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ประชาชนในกาซา ตลอดจนอุปกรณ์ทางการแพทย์ และการรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บจากการโจมตีของอิสราเอล ขณะเดียวกันก็ควรตอบสนองความต้องการของชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซาและสนับสนุนให้มาตรการหยุดยิงเกิดขึ้นอย่างถาวร
นอกจากนี้ นายซารีฟยังสนทนาผ่านทางโทรศัพท์กับนายเฟเดริกา โมเกรินี รมว.ต่างประเทศของอิตาลีวานนี้ว่า ควรกดดันอิสราเอลมากขึ้นเพื่อยุติการโจมตีฉนวนกาซา ขณะเดียวกันนายซารีฟยังเรียกร้องให้อิตาลีและสหภาพยุโรป (อียู) สนับสนุนความต้องการของชาวอิสราเอลที่อยากให้อิสราเอลยุติการปิดล้อมฉนวนกาซา สำนักข่าวซินหัวรายงาน