โยชิฮิเดะ ซูกะ ประธานเลขาธิการคณะรัฐมนตรีของญี่ปุ่น เปิดเผยว่า สินทรัพย์ที่ถือครองโดยบุคคล หรือกลุ่มบุคคลโดยตรงในญี่ปุ่นที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการรวมดินแดนไครเมียของรัสเซีย หรือความไม่มั่นคงในยูเครนตะวันออก จะถูกระงับไว้
นอกจากนี้ ญี่ปุ่นจะปฏิบัติตามการตัดสินใจของธนาคารเพื่อการบูรณะและพัฒนายุโรป (EBRD) ที่จะระงับเงินกองทุนสำหรับโครงการใหม่ๆในรัสเซีย และจำกัดการนำเข้าสินค้าที่ผลิตจากไครเมีย
กระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่น เปิดเผยว่า การคว่ำบาตรเพิ่มเติมจะมีผลบังคับใช้เมื่อผ่านการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีในเร็วๆนี้