นายสก็อต มอร์ริสัน รัฐมนตรีฝ่ายการตรวจคนเข้าเมืองของออสเตรเลียกล่าวว่า รัฐบาลกลาง "รู้สึกวิตกอย่างมาก" เกี่ยวกับวิกฤตในอิรักที่ดำเนินอยู่ในขณะนี้ และได้จัดทำรายชื่อชาวคริสเตียนเชื้อสายอิรักและชาวยาซีดี ที่มีสิทธิรับวีซ่าด้านมนุษยธรรมพิเศษ (Special Humanitarian Visas)
สถานที่ลี้ภัยภายใต้โครงการรายปีของออสเตรเลียมีจำนวน 13,750 แห่ง แต่การอนุมัติวีซ่าจำนวนมากกว่า 4,000 กรณี ได้รับการสงวนไว้สำหรับผู้ลี้ภัย "ที่มีความจำเป็นมากที่สุดในการตั้งถิ่นฐานใหม่" อันเนื่องมาจากสภาวะแวดล้อมที่อันตราย
โฆษกรายหนึ่งเปิดเผยว่า ออสเตรเลียจัดหาที่อยู่ให้ประชาชนและครอบครัวที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตซีเรีย จำนวนมากกว่า 1,000 แห่งเมื่อปีที่แล้ว
ทั้งนี้ ชาวยาซีดีหลายพันคน ซึ่งลี้ภัยจากการโจมตีของกลุ่มหัวรุนแรงในอิรัก ได้ร้องขอความช่วยเหลือจากนานาชาติ และออสเตรเลียเตรียมส่งมอบความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมให้แก่อิรักแล้ว
ทางด้านนายกรัฐมนตรีโทนี แอบบอตต์ของออสเตรเลีย ได้จัดการหารือขึ้นเมื่อวานนี้ร่วมกับนายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอนของอังกฤษ, บรรดารัฐมนตรีอาวุโสและเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงของอังกฤษ เกี่ยวกับแผนการเพื่อเข้าแทรกแซงวิกฤตในอิรัก
นายแอบบอตต์ได้เปิดทางสำหรับบทบาททางการทหารที่เพิ่มขึ้นของออสเตรเลีย เพื่อช่วยหยุดการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในอิรัก และกล่าวว่า "เราจะทำสิ่งที่เราสามารถทำได้อย่างสมเหตุสมผล ภายในศักยภาพของเรา เพื่อป้องกันหายนะทางมนุษยธรรม"
ในทางเหนือของอิรัก ผู้ลี้ภัยชาวยาซีดีประมาณ 30,000 คน ยังคงถูกปิดล้อมอยู่บนภูเขาซินจาร์ ซึ่งดำเนินมาเป็นระยะเวลา 11 วันแล้ว หลังการจากหลบหนีจากกลุ่มหัวรุนแรงของรัฐอิสลามอิรักและเลแวนต์ (ISIL) สำนักข่าวซินหัวรายงาน