นายสเตฟาน ดูจาร์ริก โฆษกยูเอ็นกล่าวในการแถลงข่าวว่า "ข้อมูลจาก UNICEF ระบุว่า ประเภทและขอบเขตของความรุนแรงต่อเด็กและผู้หญิง และประชาคมชนกลุ่มน้อยในอิรัก เมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมานี้ เป็นหนึ่งในสิ่งที่เลวร้ายที่สุดในช่วงศตวรรษนี้"
"หน่วยงานได้จัดเก็บกรณีที่แยกจากกัน 123 กรณีในเรื่องการละเมิดสิทธิที่กลุ่มติดอาวุธกระทำต่อชาวยาซิดี และชนกลุ่มน้อยอื่นๆ ในนินาวะ บริเวณใกล้กับชายแดนซีเรีย"
UNICEF ได้ให้การสนับสนุนและจัดการดูแลทางจิตใจ-สังคม ให้กับเด็กที่ไม่มีความสุขจำนวนมากกว่า 3,000 คน ซึ่งตอนนี้อยู่ในสถานพักพิงในเมืองดาฮุค เขตของชาวเคิร์ดในอิรัก
ทั้งนี้ ประชาชนอิรักจำนวนประมาณ 1.2 ล้านคนต้องย้ายที่อยู่ในปี 2557 รวมถึงประชาชน 600,000 คน ในจังหวัดอันบาร์ ซึ่งสถานการณ์วิกฤตเริ่มต้นในเดือนม.ค. และอีก 600,000 คน ที่ต้องย้ายที่อยู่สืบเนื่องมาจากความขัดแย้งภายในและโดยรอบเมืองโมซุล เมืองขนาดใหญ่ที่สุดในทางเหนือของอิรัก และจากความขัดแย้งที่เพิ่งเกิดไม่นานนี้ในซินจาร์ ตั้งแต่เดือนส.ค.
ท่ามกลางวิกฤตการอพยพย้ายที่อยู่ซึ่งขยายขอบเขตในอิรัก องค์การด้านมนุษยธรรมหลายแห่งของยูเอ็น กำลังเพิ่มความพยายามในการส่งอาหารและน้ำให้แก่ประชาชนที่หลบหนีการโจมตีของกลุ่มรัฐอิสลามหัวรุนแรง (IS) สำนักข่าวซินหัวรายงาน