นายยัตเซนยุคกล่าวในการประชุมคณะรัฐบาลว่า "ในคืนก่อนการประชุมสุดยอดของนาโต ผมอยากจะเน้นว่าเป้าหมายของเราคือการได้รับสถานะพิเศษในการเป็นพันธมิตรระหว่างนาโตและยูเครน"
นายกฯยูเครนเน้นว่า เป้าหมายดังกล่าวอาจเป็นเรื่อง "ยาก" สำหรับยูเครน ในการได้รับสมาชิกภาพเต็มตัวจากนาโตในอนาคตอันใกล้นี้ แต่เขาแสดงความหวังว่าสหรัฐจะช่วยมอบสถานะ "พันธมิตรสำคัญ" ให้กับยูเครน
นอกจากนี้ นายยัตเซนยุคยังเรียกร้องให้สภา ผ่านร่างกฎหมายการเพิกถอนสถานะการไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดของยูเครนในทันที เพื่อปูทางสู่การกลับมาได้รับสมาชิกภาพจากนาโต
ขณะเดียวกัน ผู้เชี่ยวชาญหลายรายเชื่อว่า ความมุ่งหมายของยูเครนในการเข้าร่วมเป็นพันธมิตรทางการทหารกับ 28 ชาติ มีแนวโน้มสูงว่าไม่อาจกลายเป็นความจริง เนื่องจากยูเครนยังไม่สามารถคลี่คลายข้อพิพาทเรื่องเขตแดนกับรัสเซีย เกี่ยวกับสถานะของคาบสมุทรไครเมีย
ทั้งนี้ ในเดือนมี.ค. 2553 สภาได้ผ่านกฎหมายอนุญาตให้ยูเครนดำเนินความร่วมมือทางทหาร แต่ยังไม่สามารถเป็นสมาชิกองค์การทางการทหารใดๆ
ยูเครนและนาโตสร้างความเป็นพันธมิตรร่วมกันในปี 2534 หลังจากที่ยูเครนได้รับอิสรภาพจากอดีตสหภาพโซเวียตไม่นานนัก อย่างไรก็ดี ยูเครนไม่ใช่สมาชิกของนาโต แต่ได้ร่วมมือกับพันธมิตรอย่างใกล้ชิด และเข้าร่วมโครงการหุ้นส่วนเพื่อสันติภาพ (Partnership for peace Program) ของนาโต สำนักข่าวซินหัวรายงาน