ในขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีบารัค โอบามาของสหรัฐ เรียกร้องให้รัฐบาลรัสเซียเดินหน้าสนับสนุนปฏิบัติการสร้างสันติภาพ เพื่อนำไปสู่การยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรต่างๆ แม้ว่ารัสเซียได้ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาจากสหรัฐและยุโรป ว่าเป็นตัวการเบื้องหลังความไม่สงบในยูเครน
นายแอนดรี ไลเซนโก โฆษกกองทัพยูเครน เปิดเผยว่า รัฐบาลรัสเซียไม่ได้แจ้งรัฐบาลยูเครน ในส่วนของรายละเอียดการส่งรถลำเลียงปัจจัยช่วยเหลือขบวนที่ 4 ซึ่งขณะนี้กำลังเดินทางไปยังยูเครน
เมื่อวานนี้ องค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) เปิดเผยว่ารัสเซียได้ถอนกำลังทหารออกจากพื้นที่ในยูเครนเป็นจำนวนมาก ซึ่งการถอนกำลังทหารรัสเซียออกจากพื้นที่ถือเป็นสัญญาณที่ชี้ให้เห็นว่า ข้อตกลงในการยุติการสู้รบยังคงมีผลบังคับใช้อยู่ แม้ว่าจะมีการปะทะกันประปรายระหว่างทหารยูเครนและกลุ่มกบฎอยู่บ้างก็ตาม
ทั้งนี้ สถานการณ์ความรุนแรงในยูเครนมียอดผู้เสียชีวิตรวมกันกว่า 3,200 ราย บาดเจ็บอีกกว่า 8,000 ราย นับตั้งแต่ที่รัสเซียผนวกไครเมียเข้าเป็นส่วนหนึ่งของประเทศ