ผลเอ็กซิตโพลล์ดังกล่าวซึ่งมีขึ้นหลังจากปิดหีบเลือกตั้งไม่กี่ชั่วโมง แสดงให้เห็นว่า พรรค People's Front ของนายกรัฐมนตรีอาร์เซนี ยัตเซนยุค ตามหลังผู้นำมาติดๆ ด้วยคะแนนโหวตราว 21% รองลงมาได้แก่พรรค Samopomich ซึ่งนำโดยนายแอนดรีย์ ซาดอฟยี นายกเทศมนตรีเมืองลวีฟ ที่ได้คะแนนราว 12%
สำหรับพรรคอื่นๆที่ได้รับคะแนนผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำจึงจะเข้าสู่รัฐสภาได้นั้น ประกอบด้วยพรรค Fatherland Party ของนางยูเลีย ทิโมเชนโก, พรรค Svoboda ซึ่งเป็นพรรคชาตินิยม, พรรค Radical Party ของนายโอเลห์ ลีอาชาโก นักการเมืองยูเครน และพรรค Opposition Bloc
โดยพรรค Opposition Bloc ซึ่งเป็นพรรคฝักใฝ่รัสเซีย และมีผู้นำพรรคคือนายยูริ บอยโก อดีตรัฐมนตรีกระทรวงเชื้อเพลิงและพลังงานนั้น ได้รับคะแนนเสียงราว 7%
ทั้งนี้ ชาวยูเครนออกไปใช้สิทธิลงคะแนนเสียงการเลือกตั้งเมื่อวานนี้ โดยมีพรรคการเมืองลงสมัครรับเลือกตั้ง 29 พรรค และผู้สมัคร 1,401 คน ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญมองว่าการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการเลือกตั้งที่กลายเป็นประเด็นถกเถียงมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของยูเครนหลังได้รับอธิปไตย โดยมีเป้าหมายเพื่อช่วยให้ประเทศหลุดพ้นจากวิกฤตการที่กำลังดำเนินอยู่
ในเดือนส.ค.ที่ผ่านมา นายโปโรเชนโกได้เรียกร้องให้มีการเลือกตั้งก่อนกำหนด เพื่อ "ชำละล้าง" รัฐสภา การตัดสินใจดังกล่าวของผู้นำยูเครนก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ภายในประเทศ ท่ามกลางความแตกแยกที่ดำเนินอยู่แล้วระหว่างพื้นที่ตะวันออกที่ประชนพูดภาษารัสเซีย และพื้นที่ตะวันตกซึ่งนิยมยุโรป สำนักข่าวซินหัวรายงาน