คะแนนนิยมปธน.อินโดฯทรุดฮวบ หลังลดเงินอุดหนุนราคาเชื้อเพลิง

อาเด มุลยานา นักวิจัยของ LSI ระบุว่า รัฐบาลของโจโควียังทำหน้าที่ไม่ครบ 100 วัน แต่คะแนนนิยมของประธานาธิบดีกลับลดลงอย่างมาก

ข้อมูลล่าสุดแสดงให้เห็นว่า ความพอใจของประชาชนร่วงลงจากกว่า 80% ในช่วงก่อนที่เขาจะสาบานตนเข้ารับตำแหน่ง มาอยู่ที่ 44.94% หรือในเวลาเพียงหนึ่งเดือนหลังจากที่เขาเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 20 ต.ค.

ผลสำรวจผู้ตอบแบบสอบถาม 1,200 คนจัดทำขึ้นในระหว่างวันที่ 18-19 พ.ย. หลังจากที่รัฐบาลประกาศขึ้นราคาเชื้อเพลิง

โดยโจโควีประกาศเมื่อวันที่ 17 พ.ย.ว่า ราคาเบนซินออคเทนต่ำจะปรับตัวขึ้น 2,000 รูเปียห์ (0.16 ดอลลาร์) สู่ระดับ 8,500 รูเปียห์/ลิตร และราคาดีเซลเพิ่มขึ้น 2,000 รูเปียห์ เป็น 7,500 รูเปียห์/ลิตร

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อลดยอดขาดดุลงบประมาณ แม้เป็นการตัดสินใจที่เกิดขึ้นในช่วงที่ราคาน้ำมันโลกกำลังปรับตัวลดลงก็ตาม

อินโดนีเซียประมาณการว่าจะต้องใช้เงินอุดหนุนเชื้อเพลิง 276 ล้านล้านรูเปียห์ในปีหน้า หรือประมาณ 15% ของงบรายจ่ายของรัฐบาล

ผลสำรวจของ LSI เผยให้เห็นว่า คะแนนนิยมของโจโควีลดลงเพราะการขาดการสื่อสารกับประชาชนก่อนขึ้นราคาเชื้อเพลิง และเพราะต้นทุนปัจจัยพื้นฐานที่ปรับตัวสูงขึ้น

นักวิจัยของ LSI กล่าวว่า ประชาชนมองว่าการขึ้นราคาเชื้อเพลิงเป็นการเพิ่มภาระให้กับค่าครองชีพของพวกเขา โดยผู้ตอบแบบสำรวจ 74.38% ระบุว่า ราคาเชื้อเพลิงที่สูงขึ้นทำให้พวกเขาใช้ชีวิตยากขึ้น

อาเดกล่าวว่า ในช่วงเลือกตั้งนั้น โจโควีได้รับความนิยมมากในหมู่ผู้มีรายได้ต่ำ แต่ตอนนี้การสนับสนุนจากประชาชนในกลุ่มนี้ปรับตัวลดลง

โจโควี ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นประธานาธิบดีที่ติดดิน กล่าวก่อนหน้านี้ว่า เขาพร้อมที่จะไม่เป็นที่ชื่นชอบ พร้อมกับระบุว่าการขึ้นราคาเชื้อเพลิงต้องมีทั้งข้อดีและข้อเสีย และรัฐบาลก็ยินดีรับฟังทุกความคิดเห็น