นายเมชคอฟเน้นว่า "พันธมิตรของเราตระหนักถึงท่าทีที่สำคัญของรัสเซีย ว่าการเป็นสมาชิกนาโตของยูเครนจะบั่นทอนความมั่นคงของยุโรป"
ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีเปโตร โปโรเชนโกของยูเครนกล่าวว่า ยูเครนกำลังพิจารณาการยกเลิกสถานะไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดเพื่อให้ประเทศสามารถเข้าร่วมกลุ่มพันธมิตรทางการทหารได้
รมช.ต่างประเทศรัสเซียกล่าวย้ำเกี่ยวกับแถลงการณ์ของประธานาธิบดีโปโรเชนโกว่า การดำเนินการดังกล่าวจะก่อให้เกิดผลกระทบทางการเมือง "ที่รุนแรง"
สำนักข่าวอินเตอร์แฟกส์รายงานโดยอ้างคำกล่าวของนายเมชคอฟว่า "มีกลไกที่สมบูรณ์มากมายเพื่อรับประกันความมั่นคงของประเทศหนึ่ง โดยไม่ต้องบั่นทอนเสถียรภาพในภูมิภาคและทั่วโลก"
อย่างไรก็ดี ปธน.ยูเครนเปิดเผยเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า จะมีการจัดลงประชามติเพื่อตัดสินใจว่ายูเครนควรเข้าเป็นสมาชิกนาโตหรือไม่ โดยทางการยูเครนได้ดำเนินการเกี่ยวกับหลักเกณฑ์บางประการ ซึ่งยูเครนควรปฏิบัติตามภายในช่วงหลายปีข้างหน้าเพื่อให้ได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกของนาโต ทั้งนี้ ปธน.โปโรเชนโกยืนยันว่าความพยายามในการเข้าร่วมเป็นพันธมิตรนาโตในปัจจุบัน “จะส่งผลเสียมากกว่าผลดี"
ยูเครนและนาโตได้เป็นพันธมิตรกันในปี 2534 หลังจากที่ยูเครนได้รับอิสรภาพจากอดีตสหภาพโซเวียตไม่นานนัก โดยยูเครนร่วมมือกับนาโตอย่างใกล้ชิด และเข้าร่วมโครงการหุ้นส่วนเพื่อสันติภาพของนาโต
ในเดือนมี.ค. 2553 รัฐสภายูเครนได้อนุมัติกฎหมาย ซึ่งห้ามยูเครนเข้าร่วมเป็นสมาชิกองค์การทางทหารใดๆ แต่อนุญาตให้ร่วมมือได้ สำนักข่าวซินหัวรายงาน