แถลงการณ์ของกระทรวงการคลังสหรัฐระบุว่า มาตรการคว่ำบาตรครั้งใหม่นี้พุ่งเป้าไปที่ 3 หน่วยงานของเกาหลีเหนือ ซึ่งได้แก่สำนักงานฝ่ายกิจการลาดตระเวน, บรรษัทเพื่อการพัฒนาเหมืองแร่แห่งเกาหลีเหนือ และบรรษัทเพื่อการซื้อขายแห่งเกาหลีเหนือ นอกจากนี้ ยังได้คว่ำบาตรบุคคลอีก 10 คนที่ทำงานให้กับหน่วยงานเหล่านี้หรือทำงานให้กับรัฐบาลเกาหลีเหนือ ด้วยการสั่งห้ามไม่ให้บุคคลและหน่วยงานเหล่านี้สามารถเข้าถึงระบบการเงินของสหรัฐ และห้ามทำธุรกรรมกับพลเมืองของสหรัฐ
นายเจคอป ลิว รัฐมนตรีคลังสหรัฐกล่าวว่า "มาตรการคว่ำบาตรครั้งล่าสุดนี้จะยิ่งทำให้เกาหลีเหนือถูกโดดเดี่ยวมากยิ่งขึ้น และเป็นการขัดขวางกิจกรรมในด้านต่างๆของหน่วยงานเกาหลีเหนือ ท่านประธานาธิบดีสหรัฐได้แถลงแล้วว่า การคว่ำบาตรครั้งนี้พุ่งเป้าไปที่การตอบโต้เกาหลีเหนือในกรณีการโจรกรรมข้อมูลของบริษัทโซนี พิคเจอร์ส เอนเตอร์เทนเมนท์"
สำนักข่าว CNN ระบุว่าเจ้าหน้าที่สืบสวนของสหรัฐมีความเห็นว่า การแฮคระบบของโซนี พิคเจอร์สเป็นฝีมือของกลุ่มแฮคเกอร์ที่ทำงานให้กับเกาหลีเหนือ และเชื่อมั่นว่า การเจาะระบบดังกล่าวเป็นคำสั่งโดยตรงจากผู้นำเกาหลีเหนือเอง เนื่องจากรัฐบาลทหารเกาหลีเหนือควบคุมการใช้อินเทอร์เน็ตในประเทศอย่างเข้มงวด ทั้งนี้ การโจรกรรมข้อมูลดังกล่าวส่งผลให้บริษัทโซนี พิคเจอร์ส เอนเตอร์เทนเมนต์ตัดสินใจยกเลิกการฉายภาพยนตร์เรื่อง "The Interview" ซึ่งเดิมมีกำหนดเข้าโรงวันแรกในวันที่ 25 ธ.ค. โดยภาพยนตร์เรื่องนี้นำแสดงโดยเจมส์ ฟรังโก และเซธ โรเกน ซึ่งรับบทเป็นผู้สื่อข่าวที่ถูกจ้างวานโดยสำนักงานข่าวกรองกลางของสหรัฐ (CIA) เพื่อให้เข้าไปลอบสังหารผู้นำคิม จอง อึนในเกาหลีเหนือ