ผู้นำรัสเซียได้ให้สัมภาษณ์กับนักข่าวภายหลังเสร็จสิ้นการพบปะหารือกับนายนิคอส อนาสตาเซียเดส ประธานาธิบดีของไซปรัส ว่า “การตัดขาดความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่าง EU และรัสเซีย จะนำไปสู่การสูญเสียความสามารถทางการแข่งขันของกลุ่มยูโรโซนทั้งหมดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทั้งในระยะกลางและระยะยาว"
ปธน.ปูตินระบุว่า EU ได้รับความเสียหายแล้วเป็นมูลค่าหลายหมื่นล้านยูโรจากมาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย และจากการที่รัสเซียได้ตอบโต้การคว่ำบาตร เนื่องจากรัสเซียเป็นประเทศที่มีทรัพยากรธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ และเป็นผู้นำในอีกหลายภาคอุตสาหกรรม อาทิ พลังงานนิวเคลียร์
ขณะเดียวกัน ปธน.ปูตินยอมรับว่า การตัดความสัมพันธ์กับ EU ได้ส่งผลกระทบต่อรัสเซียเช่นกัน พร้อมขอให้ประเทศในยุโรปคำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศตนเองหากคิดจะทำการคว่ำบาตร
นอกจากนี้ ผู้นำรัสเซียระบุว่า ข้อพิพาทเรื่องก๊าซระหว่างรัสเซียและยูเครนยังได้ส่งผลกระทบต่อการส่งออกก๊าซธรรมชาติไปยังยุโรปอีกด้วย สำนักข่าวซินหัวรายงาน