ทั้งนี้ กลุ่มอัล-ชาบับกล่าวหารัฐบาลเคนยาว่า รัฐบาลได้กระทำการอันป่าเถื่อนต่อชาวมุสลิมในเคนยา เหมือนกับที่กองกำลังทหารของเคนยากระทำในโซมาเลีย พร้อมกับกล่าวว่า เคนยาจะไม่สงบสุขจนกว่าความปลอดภัยจะในดินแดนมุสลิมอย่างแท้จริง นอกจากนี้ ยังได้กล่าวหารัฐบาลเคนยาว่ายอมรับใช้ชาติมหาอำนาจตะวันตก ซึ่งสร้างความเดือดร้อนให้กับชาวเยเมน
"การเฝ้าระวังหรือมาตรการความปลอดภัยใดๆก็ตาม ไม่อาจรับประกันความปลอดภัยของพวกท่านได้ และไม่อาจขัดขวางการโจมตีหรือการนองเลือดให้เกิดขึ้นในเมืองต่างๆของท่าน" กลุ่มอัล-ชาบับระบุในแถลงการณ์
นอกจากนี้ กลุ่มอัล-ชาบับยังกล่าวด้วยว่า เคนยาไม่ยอมเรียนรู้บทเรียนที่เกิดขึ้นจากการโจมตีในเมืองเวสตเกท เมืองมาเปเคโทนี เมืองแกมบา และเมืองแมนเดรา ซึ่งกลุ่มอัล-ชาบับอ้างว่าได้เคยโจมตีเมืองเหล่านี้
การขู่โจมตีครั้งใหม่ของกลุ่มอัล-ชาบับมีขึ้นเพียงไม่กี่วันหลังจากที่ทางกลุ่มได้ก่อเหตุโจมตีมหาวิทยาลัยการิสซาของเคนยาเมื่อวันพฤหัสบดี โดยในช่วงแรกของการโจมตีนั้น กลุ่มอัล-ชาบับได้บุกกราดยิงแบบไม่เลือกหน้าในมหาวิทยาลัย แต่ต่อมาได้ปล่อยตัวผู้ที่เป็นมุสลิมบางคนออกมา และพุ่งเป้าไปยังนักศึกษาที่เป็นคริสเตียน ด้านกองกำลังของรัฐบาลเคนยาได้บุกเข้าไปยังมหาวิทยาลัยแห่งนี้และได้ต่อสู้กับกลุ่มก่อการร้าย โดยใช้เวลาในการปฏิบัติการยาวนานถึง 16 ชั่วโมง สำนักข่าวซินหัวรายงาน