ร่างกฎหมายแบบ fast-track ซึ่งรู้จักกันอย่างเป็นทางการว่า อำนาจในการส่งเสริมด้านการค้า (TPA) นั้น จะให้อำนาจแก่ประธานาธิบดีในการเจรจาข้อตกลงทางการค้า และหลังจากนั้นประธานาธิบดีก็จะเสนอข้อตกลงดังกล่าวต่อสภาคองเกรสเพื่อลงมติ โดยไม่อนุญาตให้มีการแก้ไขใดๆ
สมาชิกสภานิติบัญญัติและนักวิเคราะห์ทางการค้ามองว่า ร่างกฎหมายฉบับนี้จะช่วยให้ประเทศคู่ค้าของสหรัฐมีความเชื่อมั่นว่าจะได้รับข้อเสนอที่ดีที่สุดบนโต๊ะเจรจา และหากไม่มีอำนาจดังกล่าว ความหวังของปธน.โอบามาที่จะทำข้อตกลงทางการค้าต่างๆก่อนครบวาระการดำรงตำแหน่งก็จะเป็นเรื่องยาก
การอนุมัติร่างกฎหมายดังกล่าวมีขึ้นขณะที่ฝ่ายบริหารของปธน.โอบามาได้เดินหน้าความพยายามที่จะผลักดันข้อตกลงการค้า 2 ฉบับ ซึ่งก็คือ การเจรจาการค้าเสรีหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (TPP) ร่วมกับ 11 ประเทศในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก และการหารือความเป็นหุ้นส่วนทางการค้าและการลงทุนระหว่างแอตแลนติก (TTIP) กับสหภาพยุโรป (EU)
ทั้งนี้ เนื่องจากสมาชิกพรรคเดโมแครตที่มีแนวคิดเสรีและสมาชิกพรรครีพับลิกันแนวอนุรักษ์นิยมต่างพยายามที่จะสกัดกั้นนโยบายการค้าของปธน.โอบามา จึงยังไม่มีความชัดเจนว่าร่างกฎหมาย fast-track ดังกล่าวจะได้รับเสียงสนับสนุนเพียงพอในทั้งสองสภาของคองเกรสหรือไม่