การเปิดเผยดังกล่าวมีขึ้นในการประชุมระหว่างผู้นำญี่ปุ่นและ 5 ประเทศลุ่มแม่น้ำโขง ซึ่งได้แก่ ไทย กัมพูชา ลาว เมียนมาร์ และเวียดนาม โดยการประชุมได้เริ่มขึ้นในวันนี้
นอกเหนือจากการให้ความช่วยเหลือด้านการพัฒนาแล้ว ญี่ปุ่นยังมีเป้าหมายที่จะช่วยลดความคิดเห็นที่แตกต่างหรือความไม่ลงรอยกันในกลุ่มอาเซียน
ภายใต้ยุทธศาสตร์ "New Tokyo Strategy 2015 for Mekong-Japan Cooperation" นั้น นายชินโสะ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น และผู้นำประเทศลุ่มแม่น้ำโขง มีความเห็นพ้องว่า ภูมิภาคอาเซียนมีศักยภาพสูงพอที่จะเป็น "ศูนย์กลางการเติบโตระดับโลก" เมื่อพิจารณาจากพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ที่ตั้งอยู่ใกล้กับตลาดขนาดใหญ่ของเอเชียอย่างจีนและอินเดีย และการที่จะบรรลุเป้าหมาย "การเติบโตอย่างมีคุณภาพ" ให้ได้นั้น จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องตอบสนองความต้องการด้านสาธารณูปโภคในภูมิภาคแห่งนี้
นายอาเบะกล่าวในที่ประชุมว่า "สันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ซึ่งถือเป็นจุดยุทธศาสตร์ด้านการขนส่งทั้งทางบกและทางทะเลนั้น เป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับญี่ปุ่น" นอกจากนี้ นายอาเบะยังได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการสร้างเสถียรภาพในภูมิภาค เพื่อผลักดันความร่วมมือระหว่างญี่ปุ่นและประเทศลุ่มแม่น้ำโขงให้มีความคืบหน้ามากยิ่งขึ้น พร้อมกับแสดงความชื่นชมประเทศกลุ่มนี้ ที่พยายามผลักดันให้เกิดความคืบหน้าด้านประชาธิปไตยและการบังคับใช้กฎหมาย
ในการประชุมครั้งนี้ มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีของไทย, นายกรัฐมนตรีฮุน เซน ของกัมพูชา, นายทองสิง ทำมะวง นายกรัฐมนตรีลาว, นายเต็ง เส่ง ประธานาธิบดีเมียนมาร์, นายเหงียน เติ๊น สุง นายกรัฐมนตรีเวียดนาม เข้าร่วมประชุมด้วย สำนักข่าวเกียวโดรายงาน