"หากปราศจากข้อตกลงดังกล่าวแล้ว โครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านจะไม่มีขีดจำกัด และอิหร่านอาจรุกคืบไปสู่การพัฒนาระเบิดนิวเคลียร์" ปธน.โอบามากล่าวระหว่างการแถลงข่าวที่ทำเนียบขาว และเสริมว่า "หากไม่มีการทำข้อตกลงแล้ว ก็มีความเสี่ยงที่จะเกิดสงครามมากยิ่งขึ้นในตะวันออกกลาง"
โอบามาย้ำว่า แม้ประเทศอื่นๆในภูมิภาคจะรู้สึกถูกบีบให้ดำเนินโครงการอาวุธนิวเคลียร์ของประเทศต่อ แต่ข้อตกลงดังกล่าว "คือวิธีการที่ดีที่สุดของเรา เพื่อให้แน่ใจว่าอิหร่านจะไม่มีอาวุธนิวเคลียร์"
ประธานาธิบดีโอบามาประกาศเมื่อวานนี้ว่า อิหร่านและ 6 ชาติมหาอำนาจได้บรรลุข้อตกลงนิวเคลียร์ระยะยาวที่มีความครอบคลุมแล้ว และข้อตกลงดังกล่าวจะช่วยป้องกันไม่ให้อิหร่านครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ ซึ่งส่งผลให้สหรัฐและทั่วโลก "ปลอดภัยและปราศจากความกังวลยิ่งขึ้น"
ทั้งนี้ ข้อตกลงนิวเคลียร์กับอิหร่านถือเป็นชัยชนะทางการเมืองสำหรับปธน.โอบามา
อย่างไรก็ดี สมาชิกสภาพรรครีพับลิกันและพันธมิตรของสหรัฐอย่างอิสราเอล โจมตีข้อตกลงดังกล่าวอย่างรุนแรง โดยกล่าวว่า ผู้นำสหรัฐละทิ้งเป้าหมายหลายอย่างที่ตั้งไว้ และผ่อนปรนให้อิหร่านมากเกินไปเพื่อให้สามารถบรรลุข้อตกลงได้
ปธน.โอบามาได้ออกมาตอบโต้ผู้วิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับข้อตกลงนิวเคลียร์ ซึ่งรวมถึงสมาชิกสภาพรรครีพับลิกัน และนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮูของอิสราเอล จากการละเลยข้อเท็จจริงเกี่ยวกับข้อตกลงว่า "ผมได้ยินว่ามีการย้ำประเด็นการเจรจาหลายประเด็นซ้ำๆ แต่สิ่งที่ผมไม่ได้ยินเลยคือ ทางเลือกแบบไหนที่คุณต้องการ"
"ความคาดหวังของผมคือทุกคนในสภาคองเกรสควรประเมินข้อตกลงนี้บนพื้นฐานของข้อเท็จจริง" ผู้นำสหรัฐกล่าว "ไม่ใช่อิงกับการเมือง ท่าที หรือความจริงที่ว่าผมเสนอข้อตกลงต่อสภา ซึ่งตรงข้ามกับผู้นำฝั่งรีพับลิกัน และไม่อิงกับการล็อบบี้" สำนักข่าวซินหัวรายงาน