ประธานาธิบดีเกาหลีใต้กล่าวในการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UN) ว่า "กฎหมายด้านการป้องกันประเทศและความมั่นคงที่ญี่ปุ่นเพิ่งอนุมัติไปนั้น ควรมีการดำเนินงานอย่างโปร่งใส และในรูปแบบที่เกื้อหนุนความสัมพันธ์อันดีร่วมกับประเทศอื่นๆในภูมิภาค อีกทั้งนำมาซึ่งสันติและความมั่นคงในภูมิภาค"
เกาหลีใต้เป็นอีกประเทศหนึ่งในเอเชียที่ประสบกับความโหดร้ายของกองทัพญี่ปุ่นทั้งก่อนและระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง โดยเกาหลีใต้ได้มีการติดตามท่าทีของรัฐบาลญี่ปุ่นอย่างใกล้ชิดในการยกระดับบทบาทของกองกำลังป้องกันตนเอง (SDF) ในต่างประเทศ ซึ่งรวมถึงกฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่
ผู้นำเกาหลีใต้มองว่ากฎหมายดังกล่าว ซึ่งได้มีการประกาศใช้ท่ามกลางกระแสตึงเครียดในภูมิภาค เป็น "การกระทำที่อาจส่งผลกระทบเป็นอย่างมากต่อความมั่นคงของเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ"
รัฐสภาญี่ปุ่นให้การอนุมัติต่อกฎหมายความมั่นคง ซึ่งปูทางให้ญี่ปุ่นมีบทบาททางทหารในต่างประเทศ แม้จะถูกต่อต้านจากพรรคฝ่ายค้านและประชาชนจำนวนมาก
ทั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกในรอบ 70 ปีนับตั้งแต่เกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่รัฐบาลญี่ปุ่นจะมีอำนาจในการใช้กำลังทหารในการเกิดความขัดแย้งระหว่างประเทศ ซึ่งรวมถึงการอนุญาตให้กองทัพญี่ปุ่นมีสิทธิในการปกป้องตนเอง หรือเข้าช่วยเหลือชาติพันธมิตร แม้ว่าญี่ปุ่นไม่ถูกโจมตีก็ตาม สำนักข่าวเกียวโดรายงาน